หน้าหลัก » Digital Marketing » กลยุทธ์การตลาดในยุคใหม่ Influencer Marketing คืออะไร?

Influencer Marketing คือกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ไม่ควรมองข้าม
Influencer Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยโลกที่มีการพัฒนาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน การใช้ระดับ Influencer ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในโลกออนไลน์จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสร้าง Brand Awareness ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่มีความคล้ายคลึงกับ KOL Marketing แล้ว KOL กับ Influencer ต่างกันอย่างไร บทความนี้ ADME Media บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ จะพาไปหาคำตอบเกี่ยวกับ Influencer Marketing เพื่อให้คุณมีความเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จัก Influencer Marketing คืออะไร ทำไมแบรนด์เลือกใช้
Influencer Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือคนดังที่มีผู้ติดตามจำนวนมากมาช่วยในการโปรโมตสินค้าหรือบริการของแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Media หรือเว็บไซต์บทความ ซึ่ง Influencer Marketing สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ รวมถึงสร้างการรับรู้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในยุคปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเสพสื่อออนไลน์และชื่นชอบในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการตามบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบ การใช้ Influencer Marketing จึงกลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนี้
กลยุทธ์ KOL กับ Influencer ต่างกันอย่างไรในโลกการตลาดออนไลน์

กลยุทธ์การตลาดยอดฮิตที่พบได้ในปัจจุบันนอกจาก Influencer Marketing แล้ว ยังมีอีกกลยุทธ์ที่มีลักษณะคล้ายกันและสร้างความสับสนให้กับหลายคนอย่างมากคือ KOL Marketing แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองกลยุทธ์มีความแตกต่างกันในบางแง่มุม หากถามว่า KOL กับ Influencer ต่างกันอย่างไร คำตอบคือ Influencer Marketing เป็นการใช้ผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ ซึ่งมักจะมีฐานผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว โดยพวกเขาจะมีหน้าที่ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ติดตาม
ในขณะที่ KOL Marketing (Key Opinion Leader) คือการใช้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เช่น แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ มาให้คำแนะนำที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งต้องการข้อมูลที่ละเอียดในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการของแบรนด์ โดยอิทธิพลของ KOL นั้นไม่ได้มาจากฐานผู้ติดตาม แต่ได้มาจากความรู้และประสบการณ์ที่พวกเขามี
Influencer มีความสำคัญอย่างไรสำหรับการทำ Influencer Marketing
โฆษณาที่โผล่ขึ้นมากลางคันหรือขึ้นมาขัดจังหวะการรับชมเนื้อหามักสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน ทำให้ต้องคอยกดข้ามหรือปิดโฆษณาเหล่านั้นเสมอ ซึ่งหลายแพลตฟอร์มเลือกให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกเพื่อกำจัดโฆษณาออกไป การทำเช่นนี้ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น Influencer Marketing จึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ได้ดี เพราะไม่เพียงแต่ระดับ Influencer ผู้มีชื่อเสียงจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย แต่ยังมีอิทธิพลที่ทำให้กลุ่มผู้ติดตามของพวกเขาเชื่อมั่นและเลือกที่จะซื้อหรือใช้บริการตามบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบ
ในยุคที่การแข่งขันของแบรนด์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างเข้มข้น Influencer Marketing คือเครื่องมือที่สำคัญในการเชื่อมโยงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ด้วยอิทธิพลในการสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้ติดตามตัดสินใจทำตามคำแนะนำ ทำให้ Influencer กลายเป็นผู้ที่แบรนด์ต่าง ๆ ต่างต้องการ เพราะ Influencer ที่มีชื่อเสียงจะทำให้กลยุทธ์การตลาด Influencer Marketing ของแบรนด์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งต่างจากการโฆษณาโดยตรงที่อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่เชื่อมโยงหรือไม่ค่อยน่าสนใจ
ระดับ Influencer ต่าง ๆ ที่นักการตลาดควรรู้และเลือกใช้ให้เป็น

อย่างที่ทราบกันว่า Influencer Marketing คือกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน เนื่องจาก Influencer ที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง Influencer Marketing นั้นสามารถแบ่งระดับ Influencer ได้ออกเป็นหลายระดับ และเพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจ ตลาดถึงสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจรจึงได้รวบรวมข้อมูลระดับ Influencer ต่าง ๆ มาฝาก ดังนี้
1. Nano Influencer
ระดับที่เล็กที่สุดของ Influencer Marketing คือ Nano Influencer ที่มีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ประมาณ 1,000-10,000 คน โดย Nano Influencer มักจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดตามและสามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้สูง ซึ่งในระดับ Influencer นี้ราคาในการว่าจ้างจะไม่สูงมาก ทำให้แบรนด์สามารถกระจายการสร้างการรับรู้ในตลาดผ่านการว่าจ้างหลายคนพร้อมกัน
2. Micro Influencer
ระดับ Influencer ถัดมาคือ Micro Influencer ซึ่งมีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ประมาณ 10,000-50,000 คน ในระดับนี้ Influencer จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะในเรื่องต่างๆ เช่น อาหาร การท่องเที่ยว หรือแฟชั่น นอกจากนี้ Micro Influencer ยังสามารถช่วยสร้างตัวตนให้เข้ากับแบรนด์
ได้ง่าย เพราะตัวตนของพวกเขายังไม่ชัดเจนมาก ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามได้อย่างใกล้ชิด
3. Mid-Tier Influencer
Mid-Tier Influencer เป็นระดับ Influencer ที่มีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ประมาณ 50,000 – 100,000 คน ซึ่งถือเป็นระดับที่แบรนด์ต้องการตัวมากที่สุด เพราะพวกเขาสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้ดี และยังสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามที่มีความภักดีได้อย่างกว้างขวางขึ้น
4. Macro Influencer
Macro Influencer หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ Celebrity คือระดับ Influencer ที่มีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ประมาณ 100,000-1,000,000 คน ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมากและสามารถสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Macro Influencer ยังเป็นระดับ Influencer ที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความเฉพาะเจาะจง และมีสไตล์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างพวกเขามักจะสูงขึ้นตามไปด้วย
5. Mega Influencer
ระดับสุดท้ายของ Influencer Marketing คือ Mega Influencer ที่มีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ 1,000,000 คนขึ้นไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ระดับนี้จะเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น นักกีฬา ดารา Hollywood หรือศิลปินผู้มีชื่อเสียง โดยพวกเขาสามารถสร้างกระแสการรับรู้ได้เป็นวงกว้างและรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีการเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย แต่ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างก็สูงมากเช่นกัน
ข้อดีของ Influencer Marketing ที่ทำให้แบรนด์คุณเติบโตในยุคนี้
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล การแข่งขันในตลาดและการเข้าถึงผู้บริโภคกลายเป็นความท้าทายที่แบรนด์ต้องเผชิญ Influencer Marketing จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญมาก โดยการร่วมมือกับผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ เพื่อช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Influencer Marketing ไม่เพียงแค่สร้างกระแสหรือเทรนด์ให้กับแบรนด์ แต่ยังช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคผ่านการโปรโมตที่เป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียดเกินไป ในส่วนนี้ ADME บริษัทรับทำตลาดออนไลน์ จะพาไปดูข้อดีของ Influencer Marketing ที่ทำให้กลยุทธ์นี้ได้รับความสนใจจากแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย
1. สร้างการรับรู้: Influencer Marketing ช่วยให้แบรนด์สร้างการรับรู้ (Brand Awareness) ได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้ติดตามมักเชื่อในคำแนะนำหรือรีวิวจาก Influencer
ที่พวกเขาติดตาม
2. เพิ่มความน่าเชื่อถือ: Influencer เพิ่มความน่าเชื่อถือแก่แบรนด์ได้ เพราะ Influencer ก็ถือเป็นหนึ่งในผู้บริโภค ซึ่งผู้คนส่วนมากพร้อมเชื่อผู้บริโภคเช่นเดียวกับตัวเอง
มากกว่าโฆษณา
3. ช่วยเพิ่มยอดขาย: Influencer Marketing กระตุ้นให้ผู้ติดตามตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการง่ายขึ้น เพราะ Influencer จะทำหน้าที่รีวิว แนะนำ หรือโปรโมตผลิตภัณฑ์
อย่างเป็นธรรมชาติ
4. สามารถวัดผลได้: แบรนด์สามารถติดตามผลลัพธ์การโปรโมตได้ผ่านการเช็ก Engagement ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
5. มีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์: Influencer จะมีสไตล์หรือความเชี่ยวชาญในการสร้างคอนเทนต์ที่ต่างกัน การทำงานกับ Influencer ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์จะทำให้
ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า Influencer Marketing คืออะไร ระดับ Influencer ต่าง ๆ มีอะไรบ้าง KOL กับ Influencer ต่างกันอย่างไร ซึ่งเห็นได้ว่าการทำ Influencer Marketing ได้กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญในยุคดิจิทัล เพราะผู้คนใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์มากขึ้น Influencer ซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลในออนไลน์ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดและกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้ดีกว่าการโฆษณาแบบเดิม และหากคุณกำลังมองหาวิธีทำ Influencer Marketing เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจ ADME Media พร้อมที่จะช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์อย่างมืออาชีพ อยากให้แบรนด์เติบโตในยุคดิจิทัล ติดต่อเรามาได้เลย