Skip to content

รวม 6 แอพสั่งอาหารทั่วไทย ให้เหล่าร้านอาหารได้เลือกใช้แล้วที่นี่!!

รวม 6 แอพสั่งอาหารทั่วไทย ดีต่างกันยังไง

มาดูกันว่า Food Delivery Platforms ไหน เป็นตัวเลือกแอพสั่งอาหารที่ใช่สำหรับร้านอาหารของทุกคน…

ในยุคที่แอพสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทบจะได้กลายร่างเป็นปัจจัยที่ 5 ช่วยให้ชีวิตของเหล่าผู้บริโภคง่ายขึ้นมากแล้ว การรู้ว่าแอพส่งอาหารอันไหนดี แอปไหนน่าใช้ในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับร้านอาหาร ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นการปรับตัวเข้าสู่การขายในโลกของการทำการตลาดดิจิทัลที่จะพลาดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด! ซึ่งในครั้งนี้ ADME ของเราได้รวมแอพส่งอาหารเด็ด ไว้ถึง 6 แอป ให้เหล่าเจ้าของร้านอาหารได้เลือกใช้ รับรองว่าไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน!

ในนาทีนี้ ธุรกิจอย่าง Food Delivery Platforms กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด สาเหตุหลัก ๆ อย่างหนึ่งของความนิยมในเหล่าแอพสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ก็คงเป็นเพราะการที่คนต้องการความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในชีวิต หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างหนักเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานนั่นเอง

ซึ่งถึงแม้ว่าหลังจากนี้เชื้อไวรัสจะหายไป แต่ความเคยชินของคนในการใช้แอพสั่งอาหาร สั่ง Delivery ต่างๆ จะยังคงอยู่ต่อไปแน่นอน ซึ่งถ้าหากผู้ประกอบการร้านอาหารอยากให้ธุรกิจยังสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง การเลือกเป็นพาร์ทเนอร์กับ Food Delivery Platform ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งการที่รู้ว่าแอพส่งอาหารอันไหนดี และแต่ละแอปมีรายละเอียดยังไงบ้าง ก็จะช่วยให้เหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารได้เปรียบ และทำการขายบนช่องทางออนไลน์ได้เยี่ยมขึ้นแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ADME ก็ได้รวมแอพส่งอาหาร พร้อมกับรายละเอียดต่าง ๆ มาไว้ให้ที่นี่แล้ว แต่จะมีแอปอะไรบ้างนั้น ไปอ่านต่อกันได้เลย…

แน่นอนว่าในครั้งนี้ ADME ก็ไม่พลาดที่จะเลยได้รวมแอพส่งอาหารเด็ด ไว้ถึง 6 แอป เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงรายละเอียดว่าแอพส่งอาหารอันไหนดี รวมไปถึงข้อดี ข้อเด่น และข้อแตกต่าง แล้วเอาไปเลือกได้เลยว่า Platforms ไหนที่เหมาะกับการนำมาใช้ในเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของร้านอาหารของทุกคนมากที่สุดไว้ที่นี่แล้ว!! ซึ่งทั้ง 6 Platforms ที่เราอยากนำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักที่นี่ก็คือ…

GrabFood

บริษัท Ridesharing Company สัญชาติสิงคโปร์ ที่น่าจะคุ้นหูพวกเรากันดี ซึ่งในปัจจุบันก็ได้ขยายธุรกิจมาทำ “GrabFood” แอพสั่งอาหารที่มีจำนวนผู้ใช้ รวมถึงจำนวน Riders อันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว ซึ่งหากทุกคนมีร้านอาหารแล้วสมัครเข้าไปเป็น Partner สิทธิพิเศษที่ทุกคนจะได้รับก็จะมากมายเลยทีเดียว อย่างเช่นการฟรีค่าสมัคร ใช้แอป GrabMerchant เพื่อจัดการออเดอร์และรายได้อย่างมีระบบ รวมถึงได้รับการโปรโมตให้เป็น “Preferred Merchant” แสดงผลในอันดับบน ๆ ของแอป ช่วยให้ลูกค้าเห็นร้านของทุกคนได้เร็วและง่ายขึ้นสุด ๆ ไปเลยล่ะ

Foodpanda

ต่อมาที่แอพสั่งอาหารเดลิเวอรี่ “Foodpanda” ซึ่งเป็น Food Delivery Platform ที่มี Headquaters อยู่ที่ประเทศเยอรมนี โดยหากทุกคนอยากสมัครเข้าร่วมเป็น Partner กับเจ้านี้ก็อาจจะต้องเสียค่าสมัครและค่ารายเดือนกันสักหน่อย แต่จุดเด่นของแอปนี้ก็คือมีพื้นที่ให้บริการสุดครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย ครบ 77 จังหวัด แถมทุกคนจะยังได้รับ Tablet จากทาง Foodpanda ช่วยให้เรื่องการบริหารร้านของทุกคนง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และทุกคนจะยังได้รับ Voucher ส่วนลด 50 บาทจำนวน 100 ใบ เอาไว้แจกให้กับแขกไป ใครมา เป็นส่วนลดสุดพิเศษในช่วงเริ่มแรกที่เข้าร่วมกับ Foodpanda เพื่อช่วยดึงดูดให้มีลูกค้าสั่งอาหารกับทุกคนมากขึ้นนั่นเอง

 

LINE MAN Wongnai

ADME ขอรวมแอพส่งอาหารต่อกันที่แอพ “LINE MAN Wongnai” แอป Food Delivery ชื่อดังอีกเจ้าที่มีข้อดีสุด ๆ หากทุกคนสมัครเป็น Partner ก็คือทุกคนจะสามารถโปรโมทร้านอาหารของทุกคนผ่าน Social Media ของ Wongnai ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรีวิวอาหารอร่อย ๆ ได้ฟรี!! แถมถ้าทุกคนรีบสมัครตอนนี้ผ่าน “โครงการส่ง 0 บาท” กับทาง LINE MAN Wongnai จะช่วยให้ทุกคนประหยัดแบบสุด ๆ เพราะทุกคนไม่ต้องเสียค่ามัดจำในการสมัคร 1,000 บาท เรียกว่าสมัครได้แบบฟรี ๆ เลยทีเดียว

 

GoFood by Gojek

สำหรับการสมัครเป็น Partner กับ Food Delivery Platform น้องใหม่อย่าง “GoFood by Gojek” แม้พื้นที่ของแอพสั่งอาหารให้บริการจะยังจำกัดอยู่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล แต่ก็มีข้อดีที่น่าสนใจมากมาย ให้ทุกคนไม่ต้องสงสัยไปว่าแอพส่งอาหารอันไหนดีอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการจัดการออเดอร์และอัปเดตข้อมูลทุกอย่างแบบ Real-time ผ่านแอป Gobiz รวมถึงทุกคนจะยังได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมโครงการ “มาตรฐานร้านสะอาดปลอดภัย” ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านอาหารของทุกคนได้แบบฟรี ๆ อีกด้วย!!

 

Robinhood by SCB

“Robinhood by SCB” แอพสั่งอาหาร Food Delivery Platform ที่ดำเนินการโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ถึงแม้จะยังมีพื้นที่ให้บริการเพียงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ข้อดีสุดพิเศษของที่นี่ก็คือ ถ้าทุกคนสมัครเข้าร่วมเป็น Partner ทุกคนจะไม่ต้องเสียค่า GP แม้แต่บาทเดียว!! เรียกได้ว่าคุ้มที่จะลองสุด ๆ แถมยังได้รับเงินไว้ภายใน 1 ชั่วโมง และตอกย้ำความพิเศษแบบสุด ๆ เพราะทุกคนจะสามารถเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเตรียมหลักฐานแสดงรายได้ หรือหลักฐาน Statements ให้ยุ่งยากต่อไปเลยล่ะ!

 

True Food

ปิดท้ายกันที่แอพสั่งอาหารอย่าง “True Food” น้องใหม่ที่พร้อมเขย่าวงการ Food Delivery ในไทย โดยแอพสั่งอาหารเดลิเวอรี่นี้ จะโดดเด่นไปด้วยเรื่องการไม่เก็บค่า GP และสามารถใช้ Application TrueID รวมถึงทรูพอยต์ในแอปมาใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับร้านอาหาร แน่นอนว่าสมัครง่าย และทำได้หลายช่องทาง ทั้งโทรไปที่ Call Center ที่เบอร์ 1326 หรือจะสมัครผ่านแอป True Smart Merchant ก็ได้เช่นกันนะ


และสำหรับเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารคนไหน ที่ต้องการรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถอ่านต่อได้แบบเข้าใจง่ายสุด ๆ กับภาพ Infographic ที่ทาง ADME ของเรารวมแอพส่งอาหาร และรายละเอียดต่างๆ ไว้อย่างครบครัน รับรองว่าจะเป็นประโยชน์กับร้านอาหารของทุกคนอย่างเต็มที่แน่นอน!


และสุดท้าย สำหรับบทความการตลาดออนไลน์ที่ ADME ของเราได้รวมแอพส่งอาหารเด็ด ไว้ถึง 6 แอป ให้เหล่าเจ้าของร้านอาหารได้เลือกใช้บริการ ขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าในยุค Digital Disruption เราหวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะได้เห็นกันแบบจัดเต็มแล้วว่าแอพส่งอาหารอันไหนดี แอพสั่งอาหารเดลิเวอรี่อันไหนเหมาะสมกับร้านอาหารของแต่ละคนมากที่สุดกันแล้วนะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ทุกคนสนใจที่จะติดตามข่าวสาร อัปเดต เกี่ยวกับเรื่อง Digital Marketing หรือจะเป็นเรื่องของแอพสั่งอาหารต่าง ๆ ในอนาคต ก็สามารถติดตาม ADME ไว้ได้เลยนะ เราพร้อมให้บริการรับทำการตลาดออนไลน์และรวบรวมข้อมูลเด็ด ๆ และมาให้ทุกคนรู้แบบ “ทันท่วงที” อย่างแน่นอน!