Skip to content
ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับโฆษณาบน Facebook และ Google

ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สำหรับ Google Ads และ Facebook Ads ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 64 เป็นต้นไป! 

เป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการคนยิงโฆษณาบน Facebook และ Google เป็นอย่างมาก เพราะเราจะต้องเริ่มจ่ายภาษี (VAT) 7% สำหรับค่าเงินที่ยิงโฆษณาไปนั่นเอง ตามกฎหมาย E-Service ของประเทศเรา

ซึ่งอันนี้จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีของบุคคลธรรมดา กับกรณีของนิติบุคคลที่จดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คืออีก

  1. ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลใดๆ ก็ตามที่ไม่มีเลขที่เสียภาษี อันนี้ทาง Google และ Facebook เค้าก็จะคำนวน VAT 7% ให้เรียบร้อย แล้ว Add ไปกับ Invoice ตัดบัตร จ่ายจบไปเลย
  2. ถ้าเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว  อันนี้แค่เรากรอกเลข VAT ID ของเราไปในระบบของแพลตฟอร์มที่เป็นของบริษัทต่างประเทศ (ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google หรืออื่นๆ) แล้วก็ไปยื่นนำส่งภาษี (ภ.พ.36) ในแต่ละเดือน แล้วค่อยนำไปเคลมภาษีในเดือนถัดไป

สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

 ในฝั่ง Google เค้าก็ออกมาแจ้งและเตือนให้เรารีบไปกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีได้ โดยมีวิธีตามนี้

  1. คลิกลิงก์ Google Payment
  2. ไปที่ Settings
  3. ตรง Thailand Tax Info เราก็ไปกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทเราได้เลย
  4. กด Save เป็นอันจบพิธี

ในส่วนของ Facebook เราก็ต้องไปกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเช่นกัน โดยมีวิธีตามต่อไปนี้

  1. คลิกลิงก์ Facebook Payment ไปที่ Payment Settings
  2. แล้วเลื่อนลงมาที่ Business Info แล้วกด Edit
  3. จากนั้นก็กรอกชื่อธุรกิจ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีได้เลย

แล้วถ้าเราเป็นบุคคลธรรมดา ที่ไม่มี VAT ID แล้วยิงโฆษณาล่ะ?

อันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไร ทาง Google และ Facebook เค้าก็จะใส่ยอดภาษีนี้ให้ใน Invoice ตัดบัตรให้เราเรียบร้อยเลย

ภาพอ้างอิงจาก LIVE | ตามติดกฎหมาย e-Service จากกรมสรรพากร

7% นี่.. จะว่าน้อย ก็ไม่น้อยนะ ลองนึกดูว่าถ้าปกติเรามีงบยิงโฆษณาอยู่ที่เดือนละ 10000 บาท ยิงโฆษณามาด้วยงบเต็ม 10000 บาทมาตลอด แต่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ เราก็จะยิงโฆษณาได้อยู่ที่ 9300 บาทเท่านั้น (หัก 700 บาทไปเป็นภาษี) แน่นอนว่ามันก็กระทบ Impressions และ Reach รวมไปถึง Conversion ที่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น อย่าลืมจัดการคำนวนดีๆ นะ

ขอสรุปให้อีกที

  1. สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนภาษีแล้ว 
    ไปกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในระบบ Google และ Facebook หรือแพลตฟอร์ม หรือบริษัทต่างชาติต่างๆ แล้วค่อยยื่นภาษี (ภ.พ.36) ตามระบบปกติไป
  2. สำหรับบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเสียภาษี และบุคคลธรรมดา
    ไม่ต้องทำอะไร VAT จะถูกเพิ่มเข้าไปจากค่าโฆษณาที่รัน และตัดบัตรไปเอง
  3. สำหรับเอเจนซี่
    ใช้บัตรเครดิตของใครก็ดูตามเจ้าของบัตรได้เลย ว่าเจ้าของบัตรเป็นบริษัทจดทะเบียนภาษีมั้ย? หรือเจ้าของบัตรเป็นลูกค้าบุคคลธรรมดา แล้วก็ทำตามข้อ 1. กับ 2. ได้เลย