Table of Contents
Google Trends คือเครื่องมือสำรวจเทรนด์ที่ดีที่สุดของยุคนี้
Google Trends คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถดูแนวโน้มหรือเทรนด์ที่คนค้นหาคำต่าง ๆ บน Google ในช่วงเวลา และประเทศที่เราเลือก ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าผู้คนค้นหาคำไหนมากขึ้นบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา หรือจะนำไปเปรียบเทียบกับคำอื่นๆ เพื่อเลือกใช้ก็ได้เช่นกัน ในส่วนนี้จะทำให้ Google Trends เป็นตัวช่วยให้เราเขียนคอนเทนต์ในเชิง SEO หรือเป็นไอเดียในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สำหรับลง Social Media ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานหรือกลุ่มลูกค้าของเราได้มากขึ้น
เพื่อให้ทุกคนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Trends ไปจนถึงวิธีใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์และรับทำ SEO รายเดือนจะมาสอนวิธีใช้ Google Trends เพื่อนำไปปรับใช้ในการเขียนคอนเทนต์ หรือพิจารณาจ้าง Agency สำหรับการรับจ้างทำ SEO หรือเขียนคอนเทนต์ และเสนอแพลนต่างๆ ในอนาคต
Google Trends คืออะไร?
Google Trends คือ ตัวช่วยที่ทำให้เรารู้ว่าอะไรกำลังเป็นที่นิยมในการค้นหาบน Google Search, Google News และ YouTube ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บุคคล เว็บไซต์ อีกทั้งเรายังสามารถสำรวจเพิ่มเติมได้อีกว่าความนิยมเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ นิยมในระดับไหน เช่น ระดับโลก ระดับประเทศ หรือระดับจังหวัด รวมถึงดูความนิยมย้อนหลังเพื่อนำมาวิเคราะห์เพิ่มเติมได้อีกด้วย
นับว่า Google Trends สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ธุรกิจของเราได้เป็นอย่างมาก เพราะเราจะรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ใช้งานกำลังค้นหาเกี่ยวกับเรื่องอะไรแบบเรียลไทม์ และเราสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จาก Google Trends มาประเมินและคาดการณ์ความสนใจของผู้ใช้งาน เพื่อวางแผนงาน และจัดเตรียมแผนการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ประโยชน์ของ Google Trends เครื่องมือดีๆ จาก Google
Google Trends จะช่วยให้ธุรกิจของเราติดตามเทรนด์ในตลาดได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถระดับเทพของ Google Trends จะส่งเสริมความเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างแน่นอน และยังเป็นเครื่องมือเสริมสำหรับเอเจนซี่รับทำ SEO สายขาวหรือรับจ้างทำการตลาดใน Social Media ได้อีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของ Google Trends จะมีอะไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันได้เลย
สำรวจเทรนด์การค้นหาเพื่อเสริมข้อมูลในการทำธุรกิจ
Google Trends คือตัวช่วยให้เราสามารถสำรวจเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google Trends คลิกเลือกประเทศ และกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากรู้ จากนั้นเลือกช่วงเวลา เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ ได้ทันที และนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ต่อไป
ตัวอย่างเช่น เราอยากเปรียบเทียบสินค้าและบริการของเรากับคู่แข่งก็สามารถทำได้เลย แล้วนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าสินค้าและบริการนั้นๆ ยังได้รับความนิยมในปัจจุบันอยู่หรือไม่ เพราะบางอย่างก็มีความนิยมเพียงแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเพียงเท่านั้น เราจึงควรดูข้อมูลประกอบให้หลากหลายแนวทาง เพื่อไม่ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นนั่นเอง
สำรวจพื้นที่เพื่อวางแผนการตลาด
เราสามารถสำรวจความนิยมในพื้นที่ได้ง่ายๆ เพียงใช้เครื่องมืออย่าง Google Tends เพราะ Google Trends คือเครื่องมือที่จะทำให้เรารู้ความนิยมในพื้นที่นั้นๆ ได้ในทันทีว่าสินค้าและบริการของเรานั้นมีความนิยมในพื้นที่มากน้อยเพียงใด หรือคนในพื้นที่ที่เราต้องการจะไปทำการตลาดเค้ามักจะสนใจอะไรกันอยู่บ้างในปัจจุบัน
เมื่อเราสำรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้วนอกจากจะรู้ถึงความนิยม ก็ยังสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเราได้อีกด้วย เนื่องจากเราจะสามารถวางแผนธุรกิจที่ได้จากข้อมูลต่างๆ ได้ดังนี้
- มีคู่แข่งในพื้นที่หรือไม่
- ตลาดมีทิศทางอย่างไร
- ควรวางขอบเขตธุรกิจอย่างไร
เปรียบเทียบความนิยมกับคู่แข่งได้ง่ายๆ
Google Trends คือเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบความนิยมระหว่างธุรกิจของเรากับคู่แข่งได้ง่ายๆ เพราะเราสามารถใช้ Google Trends ค้นหาได้เลยว่าผู้ใช้งานมีความสนใจในธุรกิจของเราหรือของคู่แข่งมากกว่ากัน หรือแคมเปญของเราได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานหรือไม่
โดยเราสามารถเปรียบเทียบได้ทันทีเพียงแค่เลือกค้นหาชื่อธุรกิจของเราและชื่อธุรกิจของคู่แข่งในเครื่องมืออย่าง Google Trends จากนั้น Google Trends ก็จะแสดงผลลัพธ์เป็นกราฟขึ้นมาให้เราเห็นว่าความนิยมธุรกิจของเรากับธุรกิจของคู่แข่งในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง
เลือกทำคอนเทนต์ได้ในเวลาที่เหมาะสม
ในการทำธุรกิจที่มีสินค้าและบริการที่หลากหลายนั้นต้องขอบอกเลยว่าการใช้ Google Trends คือสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง เพราะ Google Trends จะช่วยให้เรารู้ว่าสินค้าและบริการมากมายของเรานั้นควรจะทำคอนเทนต์ในช่วงเวลาไหนถึงจะสามารถขายและโปรโมตได้ดีกว่าเดิม
ตัวอย่างเช่น เราอยากขายสมุดโน๊ตที่เป็นหนึ่งในสินค้ามากมายที่เรามีอยู่ เราก็สามารถใช้ Google Trends ดูได้เลยว่าโดยปกติแล้วสมุดโน๊ตจะได้รับความนิยมในช่วงไหน เมื่อเห็นผลลัพธ์แล้วเราก็สามารถทำคอนเทนต์เกี่ยวกับสมุดโน๊ตออกมาได้ในเวลาที่เหมาะสมนั่นเอง
สอนใช้ Google Trend เครื่องมือที่ห้ามมองข้าม
เครื่องมืออย่าง Google Trends นั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้งานไม่ยาก แถมยังมีฟีเจอร์ที่หลากหลายให้เราเลือกใช้งานได้อย่างครบถ้วน ทั้งยังส่งผลดีต่อการรับจ้างทำ SEO อีกด้วย ซึ่งจะเริ่มใช้ Google Trends ได้อย่างไร? ตามไปดูกันได้เลย
เริ่มใช้งาน Google Trends
ขั้นตอนแรกในการเริ่มใช้งาน Google Trends คือ เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google Trends และสามารถค้นหาเทรนด์ของสิ่งที่เราอยากรู้ได้ในทันที ทั้งเทรนด์ในประเทศไทยและเทรนด์ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่คลิกเลือกประเทศที่เราต้องการนั่นเอง
สำรวจการค้นหาที่กำลังนิยมในปัจจุบัน
เราสามารถเลือกดูคำค้นหาที่กำลังได้รับความนิยมในการค้นหาของประเทศไทยได้เลย ไม่ว่าจะเป็นข่าวดังในวันที่เราใช้งาน Google Trends หรือคำค้นหาที่กำลังมาแรง โดยหน้าเว็บไซต์ของ Google Trends จะแสดงผลให้เห็นเลยว่าการค้นหานั้นๆ มีจำนวนเท่าไหร่ เช่น เราเลือกคำว่า “สีเหลือง” ก็จะแสดงผลเป็นกราฟให้ดูเลยว่ามีความนิยมสูงขนาดไหน ทั้งยังแสดงข่าวหรือเนื้อหาที่สามารถตอบเราได้ด้วยว่าทำไมคำนี้ถึงได้รับความนิยม ซึ่งเราสามารถกดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยทันที
สำรวจแนวโน้มการค้นหาของประเด็นหรือคำต่างๆ
Google Trends คือ ตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าแนวโน้มการค้นหาของประเด็นหรือคำต่างๆ นั้นได้รับความสนใจมากหรือเปล่าด้วยผลลัพธ์ที่แสดงบนเว็บไซต์ Google Trends จากการทำตามขั้นตอนนี้
- กรอกคำหรือประเด็นที่ต้องการค้นหาลงในช่องสำหรับค้นหา
- เลือกประเทศ
- เลือกช่วงเวลา
- เลือกหมวดหมู่
- เลือกว่าต้องค้นหาในรูปแบบไหน เช่น ค้นเว็บไซต์ ค้นรูป ค้นข่าวสาร Google Shopping หรือค้นหาบน YouTube
การอ่านกราฟข้อมูล Google Trends ที่ถูกต้อง
เมื่อเราเลือกสำรวจประเด็นหรือคำที่เราต้องการเรียบร้อยแล้ว Google Trends ก็จะแสดงผลลัพธ์เป็นกราฟให้เราเห็นว่าสิ่งที่เราเลือกสำรวจนั้นมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากหรือน้อย ซึ่งเราต้องรู้ก่อนว่าข้อมูลจาก Google Trends เป็นเพียงแนวโน้มการค้นหาเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาอื่น และกราฟจะแสดงข้อมูลจากค่า 0-100 โดยค่า 100 ก็คือมีความนิยมมากที่สุด ค่า 50 คือมีความนิยมเพียงครึ่งเดียว ส่วนค่า 0 นั้นหมายถึงมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่มีการค้นหาเลยนั่นเอง
สำรวจพื้นที่ของการค้นหา
Google Trends คือ เครื่องมือที่ช่วยให้เราสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ของการค้นหาได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้เลยเพียงเข้าเว็บไซต์ของ Google Trends และเลือกประเด็นหรือคำที่ต้องการ เราก็จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีว่าพื้นที่ไหนค้นหาประเด็นหรือคำที่เราเลือกบ้าง
ตัวอย่างเช่น เราเลือกค้นหาคำว่า “ดินสอ” ในประเทศไทย Google Trends ก็จะแสดงผลลัพธ์เลยว่ามีจังหวัดไหนค้นหาคำว่า “ดินสอ” บ้าง โดยที่ค่า 100 คือสถานที่ที่มีความนิยมสูงสุดเมื่อคิดการหาโดยรวมในสถานที่นั้น ค่า 50 คือสถานที่ที่นิยมเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนค่า 0 คือสถานที่ที่มีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่มีการค้นหาเลย
สำรวจหัวข้อและคำที่เกี่ยวข้อง
หลังจากที่เราค้นหาประเด็นหรือคำที่เราต้องการแล้ว เราก็จะสามารถเห็นหัวข้อและคำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราค้นหาได้เลยทันที เพราะ Google Trends คือเครื่องมือที่มาพร้อมกับความสามารถนี้และช่วยให้เรารู้ถึงความเกี่ยวข้องของคำที่เราค้นหากับเรื่องอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น เราเลือกค้นหาคำว่า “ดินสอ” ก็จะได้ “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” และ “คำที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะสำรวจประเภทมาแรงหรือยอดนิยม ดังนี้
หัวข้อที่เกี่ยวข้องของ “ดินสอ” | คำที่เกี่ยวข้องของ “ดินสอ” | |
---|---|---|
มาแรง |
|
|
ยอดนิยม |
|
|
Google Trends คือตัวช่วยส่งเสริมการทำ SEO
การทำ SEO ต้องอาศัยเครื่องมือหลากหลายชนิดเพื่อทำให้ผลลัพธ์ของ SEO นั้นดีมากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ Google Trends เครื่องมือที่สามารถช่วยเราสำรวจความนิยมของประเด็นหรือคำต่างๆ และนำมาต่อยอดการทำ SEO ต่อไป ซึ่ง Google Trends ช่วยอะไรได้บ้าง? ไปดูกันเลย
ทำคอนเทนต์ตามเทศกาลได้อย่างตรงจุด
คอนเทนต์บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนั้นจะมีการค้นหาเป็นบางช่วง เช่น การท่องเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ที่มีความนิยมขึ้นๆ ลงๆ ตามฤดูกาล ดังนั้นเราจึงควรสร้างสรรค์คอนเทนต์ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ Google เห็นคอนเทนต์ของเรา และเมื่อถึงตอนที่มีการค้นหาเนื้อหาเกี่ยวกับคอนเทนต์ของเราก็จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น อีกทั้งเมื่อมีผู้ใช้งานเข้ามายังเว็บไซต์ของเราเป็นจำนวนมากและใช้เวลาอ่านนาน ก็จะส่งผลให้อันดับเว็บไซต์ของเราดีขึ้นอีกด้วย
เลือกคีย์เวิร์ดสำหรับทำคอนเทนต์
หากเรามีไอเดียในใจแล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะใช้คำไหนในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ดี ขอบอกเลยว่า Google Trends คือตัวช่วยที่ดีที่สุดในการเลือกใช้คำหรือคีย์เวิร์ดในการทำคอนเทนต์ เพราะ Google Trends จะแสดงผลลัพธ์ให้เราเลยว่าคำไหนได้รับความนิยมและควรจะใช้เป็นคีย์เวิร์ดมากกว่ากัน ทั้งยังสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้เป็นคีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดสำรองได้อีกด้วย
สร้างคอนเทนต์ที่ใช้เป็นในการทำ Outreach
เราสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่นำไปทำเป็นใช้ในการทำ Outreach ได้ โดยการเลือกทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ แปลกใหม่ และไม่ซ้ำใครก็จะทำให้มีคนเลือกคอนเทนต์จากเว็บไซต์ของเราไปใช้เป็น Backlink นั่นเอง อีกทั้งยังทำให้คอนเทนต์ของเราถูกมองเห็นมากขึ้นอีกด้วย
สำรวจไอเดียสร้างสรรค์คอนเทนต์
การสร้างสรรค์คอนเทนต์สามารถใช้ Google Trends ช่วยได้ เพราะ Google Trends คือเครื่องมือที่จะช่วยให้เราเห็นว่าอะไรกำลังได้รับความนิยม เราจึงสามารถให้ Google Trends เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของเราได้เลยและยังช่วยให้เลือกคีย์เวิร์ดได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
เทคนิคสร้างสรรค์คอนเทนต์ จาก Google Trends
เราสามารถต่อยอดและสร้างสรรค์คอนเทนต์ของเราได้ด้วย Google Trends เพราะ Google Trends คือเครื่องมือที่ทำให้เรารู้ว่าผู้ใช้งานมีแนวโน้มความต้องการแบบไหน คอนเทนต์ที่เราจะทำนั้นเป็นไปในแนวทางไหน และลงในแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำรวจไอเดียสร้างคอนเทนต์เพิ่มเติมจาก “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง”
เมื่อเราเลือกคอนเทนต์ที่เราทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็สามารถดูที่ Google Trends ได้เลยว่าเราจะต่อยอดคอนเทนต์ต่อไปได้ในหัวข้อไหนบ้าง ด้วยการดูที่ “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” และเลือกหยิบประเด็นจากส่วนนี้ไปต่อยอดทำคอนเทนต์ได้เลย
ไอเดียส่งเสริม SEO จาก “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง”
Google Trends คือเครื่องมือที่จะแสดงผลลัพธ์ในส่วนของ “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ให้เราด้วย ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกใช้คำจากส่วนนี้ไปเป็นคีย์เวิร์ดได้เลย และสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีผลลัพธ์ SEO ที่ดีขึ้น เพราะผู้ใช้งานจะเจอเว็บไซต์ของเราได้ง่ายมากขึ้นด้วยการใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้
เรียกได้ว่า Google Trends คือเครื่องมือที่สามารถช่วยให้เราทำคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมธุรกิจและส่งเสริมการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวิธีใช้ Google Trend ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ทั้งยังเรียนรู้ Google Trend วิธีใช้ได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีคนมากมายสอนใช้ Google Trend บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างครบครัน