Skip to content
แต่ละสีก็ให้ความหมายที่แตกต่าง แล้วส่งผลยังไงต่อการตลาด

Table of Contents

ความหมายของแต่ละสีมีผลมากกว่าที่คิด

‘ความหมายของแต่ละสี’ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในด้านของการออกแบบ การสร้างภาพจำ รวมไปถึงการตลาดออนไลน์ให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มี
คอร์สเรียน Graphic Design ฟรีให้คนที่มีความสนใจได้เรียนรู้ เนื่องจาก
ความรู้สึกของสี หรือความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยาจะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งรู้หรือไม่ว่า? 84.7% ของกลุ่มคนต่างๆ สามารถจดจำแบรนด์สินค้าและบริการได้จาก ‘สี’ มากกว่า ‘ตราสินค้า (Logo)’ และยังมีการทดลองที่พบอีกด้วยว่า

  • 93% ของกลุ่มตัวอย่างตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากสิ่งที่รูปลักษณ์ภายนอก  
  • 6% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกซื้อสินค้าจากผิวสัมผัสต่างๆ 
  • และเพียง 1% ที่จะเลือกซื้อสินค้าจากเสียงหรือกลิ่น 


จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘สี’ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สินค้าของเราเป็นที่จดจำนั่นเอง โดยในวันนี้ ADME ในฐานะของผู้ให้บริการ
รับทำกราฟฟิก ขอพาทุกคนไปดูความหมายของแต่ละสีที่มีความหมายต่อแบรนด์สินค้า รวมไปถึงแบรนด์สินค้าที่เลือกใช้สีต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น จะมีสีไหนยังไงบ้างไปดูกันเลย

ไขความลับความหมายของแต่ละสีมีอะไรบ้าง?

ก่อนที่เราจะไปเลือกสีในการสร้างเอกลักษณ์หรือการสร้างรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) นั้น ADME ขอแนะนำให้ทุกคนไปทำความรู้จักกับความหมายของแต่ละสีกันก่อน เพื่อช่วยในการเลือกความรู้สึกของสีที่ตรงกับคาแรกเตอร์ของแบรนด์เรา รวมไปถึงยังช่วยสะท้อนมุมมองดีๆ กิมมิคเล็กๆ จากความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยากันก่อน จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!

ความหมายของแต่ละสี : สีแดง

เริ่มต้นความหมายของแต่ละสีที่สีแรกอย่างสีแดง ซึ่งความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยาหมายถึง พลัง อำนาจ ความตื่นเต้น ความน่าสนใจ ความน่าหลงใหล รวมไปถึงความอันตราย สงคราม และความรุนแรงต่างๆ อีกด้วย เรามักจะพบว่าหลายๆ แบรนด์ที่มีการเลือกใช้ความรู้สึกของสีแดงเพื่อสร้างความรู้สึกบวก หรือการกระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้น เร้าใจ เพิ่มความสนใจให้แบรนด์นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แบรนด์ต่างๆ ยังเลือกใช้ความหมายของแต่ละสีแดงนี้ในส่วนของการกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้า หรือแถบป้ายลดราคาอีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีแดง’ ได้แก่ Coca-Cola, Youtube, Netflix, CNN, Huawei, KFC, Uniqlo, H&M, Airasia, Tipco, Canon, GQ, True เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีส้ม

สำหรับความหมายของแต่ละสีส้ม ซึ่งมีความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยาที่หมายถึงหมายถึงความคิดสร้างสรรค์ ความกระตือรือร้น ความสำเร็จ ความสมดุล และการผจญภัยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยสีส้มให้ความรู้สึกของสีที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสนุกสนาน ความเป็นมิตร และวัยเด็กได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากความหมายของแต่ละสีส้มนี้จะมีความเบาบาง และอ่อนโยนกว่าสีแดง โดยเรามักเห็นนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์หลายๆ คนหยิบเอาสีส้มนี้มาใช้กับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารไปถึงความสนุกสนาน ความกระตือรือร้น และยังสามารถสื่อถึงความสุขต่างๆ ได้อีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีส้ม’ ได้แก่ Shopee, Nickelodeon, Fanta, JBL, Mastercard, Alibaba, Firefox, Amazon รวมไปถึง SC Asset เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีเหลือง

ความหมายของแต่ละสี : สีเหลือง

‘สีเหลือง’ เป็นอีกหนึ่งสีที่มีความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยา เนื่องจากเป็นสีที่สามารถใช้บ่งบอกตัวตน และให้ความรู้สึกของสีได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความสุข การมองโลกในแง่ดี ความร่าเริงสดใส บรรยากาศในฤดูร้อน รวมทั้งเป็นสีที่หมายถึงความต้องการ ความหิว ความมั่งคั่ง ร่ำรวยได้อีกด้วย เนื่องจากสีเหลืองเป็นเฉดสีที่มีความหมายของแต่ละสีความโดดเด่นสะดุดตามากกว่าใคร ทำให้หลายๆ คนเชื่อว่าหากแบรนด์ของเราเป็นสีเหลือง อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ดีกว่าสีอื่นๆ อีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีเหลือง’ ได้แก่ McDonald’s, Lays, Burger King, Chupa Chup, CP, Shell, Snapchat, Nokair, Banana IT, Nikon, IKEA, ธนาคารกรุงศรี เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีเขียว

‘สีเขียว’ เป็นอีกหนึ่งสีที่ให้ความรู้สึกของสีได้อย่างหลากหลาย และความหมายของแต่ละสีเขียวก็ย่อมแตกต่างกันออกไปอีกด้วย โดยสีเขียวตามความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยามักหมายถึงพลังงานในเชิงบวก ความเป็นธรรมชาติ การเจริญเติบโต ความกลมกลืน ความสดชื่น ความอุดมสมบูรณ์ ความสงบ และสีเขียวยังหมายถึงความมีสุขภาพที่ดี และเกียรติยศได้อีกด้วย ความหมายของแต่ละสีเขียวยังเหมาะสำหรับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสถาบันการเงินได้อีกด้วย โดยที่หลายๆ ครั้งเราอาจจะได้เห็นการเลือกใช้สีเขียวแทนปุ่มคำสั่งซื้อหรือปุ่มตกลง ด้วยเหตุผลของความมั่นคงได้อีกด้วย 

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีเขียว’ ได้แก่ Grab, LINE, ธนาคารกสิกรไทย, Starbuck, AIS, เครื่องดื่มตราช้าง, Heineken, OPPO, ปั๊มน้ำมันบางจาก เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีฟ้าและสีน้ำเงิน

ความหมายของแต่ละสี : สีฟ้าและสีน้ำเงิน

ด้วยความที่ ‘สีฟ้าและสีน้ำเงิน’ เป็นเฉดสีที่ใกล้เคียงกัน จึงมีการหยิบเอาสีทั้ง 2 สีนี้ไปใช้ในการสื่อความหมายของแต่ละสีในแง่ของการสื่อสารถึงสันติภาพ ความสงบ ความปลอดภัย ความมั่นใจ ความมั่นคง ความเป็นมืออาชีพได้เป็นอย่างดี และยังสามารถหมายถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม ความล้ำอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งสีฟ้าและสีน้ำเงินนี้เป็นสิ่งที่มีความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยา ที่หลายๆ แบรนด์เลือกใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ต่างๆ มากกว่าสีอื่นๆ อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แบรนด์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี แบรนด์ที่เกี่ยวกับยานยนต์อีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีฟ้าและสีน้ำเงิน’ ได้แก่ Facebook, Samsung, Lactasoy, Adidas Original, ปั๊มน้ำมันปตท., ธนาคารกรุงไทย, Oral-B เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีม่วง

หนึ่งในสีโปรดของใครหลายๆ คน ซึ่งสีม่วงนี้มีความหมายของแต่ละสีที่หมายถึงเกียรติยศ ความฉลาดปราดเปรื่อง ความแข็งแกร่ง ความหรูหรา ฐานันดรศักดิ์ อำนาจ ศักดิ์ศรี ความมั่นคง มั่งคั่ง ความสง่างาม และความมีเสน่ห์น่าค้นหาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สีม่วงยังมีความรู้สึกของสีที่หมายถึงความเป็นไปได้ในทุกสิ่งราวกับเวทมนตร์อีกด้วย แต่ข้อควรระวังคือหากเลือกใช้สีม่วงจนมากเกินไปอาจทำให้เกิดความรู้สึกสูงส่งจนเกินไป จนเอื้อมไม่ถึงตามความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยาอีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีม่วง’ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์, Yahoo, Robinhood, การบินไทย, Powerbuy, รองเท้า Catcha, Taco Bell, Twitch, Cadbury, Sabina เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีชมพู

ความหมายของแต่ละสี : สีชมพู

หากบนโลกนี้จะมีความหมายของแต่ละสีที่หมายถึงความเป็นผู้หญิงสักอย่าง ‘สีชมพู’ ต้องติดโพลนี้อย่างแน่นอน! เนื่องจากความรู้สึกของสีชมพูหมายถึงความเป็นผู้หญิง ความสนุกสนาน ความซุกซน วัยสดใส ความนุ่มนวล ความสวยงาม ความรัก ความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี ในหลายๆ แบรนด์จึงเลือกใช้สีชมพูเพื่อแสดงออกถึงความเป็นสินค้าและบริการสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ และสีชมพูตามความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยาแล้วยังหมายถึงความเข้าถึงง่ายในราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีชมพู’ ได้แก่ Barbie, ธนาคารออมสิน, Foodpanda, ETUDE, LG, Cosmopolitan, EVEandBOY, Victoria’s Secret เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีขาวและสีดำ

มากันที่สีคู่ขนานกันอย่าง ‘สีดำและสีขาว’ ที่เราจะเห็นหลายๆ แบรนด์หยิบมาใช้คู่กันอยู่เสมอ แต่แท้จริงแล้วทั้งสีดำและสีขาวกลับมีความหมายของแต่ละสีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่ ‘สีดำ’ หมายถึงความหนักแน่น ความกล้าได้กล้าเสีย มีพลังอำนาจและดูคลาสสิก ในขณะเดียวกัน ‘สีขาว’ หมายถึงความเรียบง่าย ความสะอาด ความบริสุทธิ์และเป็นกลาง เมื่อนำทั้ง 2 สีมาผสมผสานกันจึงทำให้ความรู้สึกของสีที่มีทั้งความมีพลังอำนาจและความเรียบง่ายในเวลาเดียวกันนั่นเอง

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีดำและสีขาว’ ได้แก่ Dior, Chanel, Adidas, Nike, Audi, Apple, L’oreal, Prada เป็นต้น

ความหมายของแต่ละสี : สีน้ำตาล

ปิดท้ายกันที่สีแห่งความคลาสิกและธาตุดิน อย่าง ‘สีน้ำตาล’ ให้ความรู้สึกของสีที่บ่งบอกถึงความเรียบง่าย ความทนทาน ความมั่นคง ความอบอุ่น ความใส่ใจ ความปลอดภัย การติดดินและความปลอบประโลม ซึ่งความหมายของแต่ละสีน้ำตาลมักจะถูกนำมาใช้ในแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ มีความ Organic รวมไปถึงการใช้เป็นภาพจำของสินค้าแบรนด์เนมได้อีกด้วย

ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้ ‘สีน้ำตาล’ ได้แก่ A&W, M&M, Louis Vuitton, กาแฟเขาช่อง, HERSHEY’s, ups, Nespresso, Wall Magnum เป็นต้น

ประยุกต์ใช้ความหมายของแต่ละสียังไงให้ปัง!

เมื่อเราได้รู้จักกับความหมายของแต่ละสี รวมไปถึงความรู้สึกของสี และความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยากันไปแล้ว อีกหนึ่งปัญหายอดฮิตที่หลายๆ คนมักจะไปต่อกันไม่ถูก นั่นก็คือแล้วเราจะประยุกต์ใช้สีต่างๆ กับแบรนด์สินค้าหรืองานของเราได้อย่างไรกัน? ADME ต้องขอบอกเลยว่าไม่ยากอย่างคิด โดยที่คุณเองก็สามารถเลือกได้ง่ายๆ ตามเทคนิคดังต่อไปนี้

  • ให้ความสำคัญเรื่องความหมายของแต่ละสี เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละแบรนด์
  • เลือกใช้สีที่มีความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยา เพื่อสร้างลูกเล่นที่น่าประทับใจกว่าให้กับแบรนด์สินค้าของเรา
  • เลือกใช้ความรู้สึกของสีที่ไม่ตัดกันจนเกินไป สำหรับแบรนด์สินค้าที่ต้องการความเบาสบาย อาชิเช่น แบรนด์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เป็นต้น
  • แต่เลือกใช้สีที่ตัดกันสำหรับแบรนด์แฟชันหรือต้องการความตื่นเต้น เร้าใจ ความทันสมัยเนื่องจากในบางครั้งความหมายของแต่ละสีที่ตัดกัน จะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์สินค้าของเราโดดเด่นขึ้นมาได้

แต่หากใครที่ไม่แน่ใจในการเลือกใช้ความหมายของแต่ละสีเพื่อการออกแบบแบรนด์สินค้า การสร้างตัวตน หรือกระทั่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สามารถติดต่อเพื่อขอรับปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์การออกแบบ และการรับทำแบรนด์สินค้าโดยเฉพาะ เพื่อให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของเราโดดเด่น ด้วยเทคนิคการใช้ความรู้สึกของสี และความหมายของสีต่างๆ หลักจิตวิทยากันได้ง่ายๆ นั่นเอง