Skip to content
AI Business ตัวช่วยแห่งอนาคตที่คนทำธุรกิจออนไลน์ต้องสนใจ

พามาดู ระบบ AI Business คืออะไร? ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องรู้จัก

Table of Contents

ปัจจุบัน AI Business ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานในธุรกิจ เพราะระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ถูกแวดวงธุรกิจนำมาประยุกต์ใช้งานหลากหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ บริการลูกค้า หรือสร้างแคมเปญการตลาด ด้วยความสามารถของ AI ทำให้บรรดานักธุรกิจต่างให้ความสนใจ และนำ AI Business มาใช้ในบริษัทมากขึ้น ในบทความนี้ ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจรได้นำความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ว่า ระบบ AI ใช้ทำอะไรได้บ้าง? เข้ามาช่วยให้การทำงานในแวดวงธุรกิจสะดวกสบายอย่างไร เพื่อให้เข้าใจการทำงานของ AI Business มากขึ้น

แนะนำหลักการทำงานระบบ AI หรือที่เราเรียกกันว่า ปัญญาประดิษฐ์

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันที่สามารถทำงานได้เหมือนกับมนุษย์ ทำให้หนึ่งในความสามารถของ AI ก็คือการเลียนแบบมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล และการประมวลผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตอบกลับมาในรูปแบบของคำพูด ข้อความ หรือการกระทำใด ๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากระบบ AI
ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ด้านไหน

ด้วยความสามารถของ AI ที่มีระดับใกล้เคียงกับปัญญาของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ระบบ AI มีหลักการทำงานอย่างไร? วันนี้ ADME Media มีคำตอบมาฝากกัน

เป็นการสอนอัลกอริทึมของ AI Business ให้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และตัดสินใจได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไป โดยการฝึกฝนระบบ AI สามารถทำได้  2 รูปแบบ คือ

เรียนรู้โดยการป้อนคำสั่ง Prompt

เป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้ของระบบ AI ที่ฝึกฝนด้วยชุดข้อมูลที่มีป้ายชื่อหรือคำตอบที่ถูกต้องระบุไว้ ทำให้ AI Business สามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และมีความแม่นยำสูง

เรียนรู้โดยไม่มีการป้อนคำสั่ง Prompt

มุ่งเน้นให้ระบบ AI เรียนรู้จากข้อมูลที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ก่อนการจัดกลุ่มข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายกันเพื่อลดความซับซ้อน เพื่อทำนายผลจากการจำแนกข้อมูลดังกล่าว

ซึ่งข้อดีของการสอนให้ระบบ AI ทำการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ก็คือยิ่งเราป้อนข้อมูลเข้าไปมากเท่าไหร่? AI Business ก็ยิ่งแสดงความสามารถในการเรียนรู้เชิงลึกได้มากขึ้นตามไปด้วย

เป็นอัลกอริทึมแบบระบบเรียนรู้เชิงลึกที่มีลักษณะเป็นโครงข่ายใยประสาทเสมือนที่มีหลายชั้น จึงสามารถเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อนได้เหมือนกับสมองของมนุษย์
ทำให้ระบบ AI สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้จากข้อมูลที่มีความซับซ้อนและมีปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนสร้างโมเดลที่มีความแม่นยำสูงในการจำแนกประเภท
และการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก

Natural Language Processing คือเทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติที่ช่วยให้ AI สามารถตีความ จัดการ และทำความเข้าใจภาษามนุษย์ได้ โดยแหล่งข้อมูลที่ใช้ใน
การเรียนรู้ของ Natural Language Processing มีทั้งข้อมูลที่รวบรวมจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ข้อมูลที่ได้จากหนังสือในรูปแบบดิจิทัล ข้อมูลจากเอกสารวิจัย ข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ข้อมูลเสียง ไปจนถึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งการเรียนรู้ที่หลากหลายช่วยให้ระบบ NLP สามารถเข้าใจและทำงานกับภาษาในรูปแบบที่แตกต่างกันได้

Computer Vision หรือการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามาช่วยให้ AI สามารถดึงข้อมูลจากภาพดิจิทัล วิดีโอ ภาพสามมิติ และสื่อภาพอื่น ๆ เข้าสู่ระบบ ก่อนนำไปเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อแยกแยะความแตกต่างจากข้อมูลภาพนั้น ๆ 

ด้วยความสามารถของ AI ในการ “มองเห็น” และ “เข้าใจ” ข้อมูลภาพแบบเดียวกับที่มนุษย์มองเห็นและตีความภาพ ทำให้ Computer Vision ถูกนำไปใช้ตรวจจับใบหน้า
ยานพาหนะ ป้ายจราจร ตรวจจับข้อบกพร่องเล็ก ๆ ระหว่างกระบวนการผลิต หรือวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคหรือค้นหาความผิดปกติ

ความสามารถของ AI สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอะไรได้บ้าง?

เพื่อให้เท่าทันการแข่งขันในตลาดดิจิทัลที่มนุษย์นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน และ AI Business เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ซึ่งมีประโยชน์ที่หลากหลาย ก็เป็นอีก
ตัวเลือกที่ธุรกิจนำมาผสานรวมกับการทำงานของมนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทำให้การดำเนินงานของธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งวันนี้ ADME บริษัทรับทำตลาดออนไลน์ครบวงจร มีตัวอย่างบางส่วนที่แสดงถึงการใช้งานระบบ AI ในธุรกิจมาฝาก

IT Operations หรือ ITOps เป็นกระบวนการทำงานที่เจ้าหน้าที่ IT ขององค์กรนำระบบ AI เข้ามาช่วยคัดกรองข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และลดเวลาที่ใช้ในการ
ตรวจจับความผิดปกติ แก้ไขข้อผิดพลาด และติดตามประสิทธิภาพของระบบ IT เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทางเทคนิคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นทั้งหมดขององค์กรสามารถ
เชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น

เนื่องจากข้อมูลลูกค้าเป็นข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเวลานานถึงได้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งการนำความสามารถของ AI มาช่วยในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายในอนาคตและทำการวิเคราะห์คู่แข่ง จะช่วยให้ธุรกิจมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับตำแหน่งของตนในตลาด

ขณะเดียวกันทีมขายสามารถนำเครื่องมือ AI Business มาทำการแบ่งกลุ่มตลาด (Marketing Segmentation) เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม ก่อนนำข้อมูลที่ได้ไปออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ

เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และมีการตอบสนองที่รวดเร็ว เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า สำหรับความสามารถของ AI ที่ถูกนำมาใช้ด้านการบริการลูกค้าที่พบได้บ่อย คือ แชทบอท เครื่องมือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับการสอบถามหรือปัญหาที่ซ้ำซากและเป็นเรื่องง่าย
โดยสามารถให้คำตอบทันทีหรือทำการดำเนินการที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือจากมนุษย์และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้า

เนื่องจากการสร้างบทความที่ให้ข้อมูล คำบรรยายสินค้าและบริการ หรือการเขียนโพสต์ที่ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาด เพราะเนื้อหาหรือบทความดังกล่าวสามารถช่วยดึงดูดและรักษาความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อย่างการใช้ ChatGPT เครื่องมือ AI Business
เข้ามาช่วยสร้างบทความที่มีข้อมูลและเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์หรือบล็อก รวมถึงการระดมความคิดสำหรับแนวคิดใหม่ ๆ หรือหัวข้อเนื้อหาต่าง ๆ นั่นเอง

ประโยชน์ของระบบ AI ที่นำมาใช้กับธุรกิจของเราได้ มีอะไรบ้าง?

การนำระบบ AI มาใช้ในธุรกิจไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ แต่ความสามารถของ AI ยังช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดออนไลน์ เพื่อให้หลายธุรกิจที่กังวลว่า ระบบ AI Business จะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ตาม ADME มาดูประโยชน์ของการใช้งานระบบ AI ในธุรกิจของคุณกัน

ทำการตลาดแบบ Personalized Marketing แม่นยำมากขึ้น

เนื่องจาก Personalized Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่งที่นำเทคโนโลยี AI Business เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายแต่ละรายในระดับลึกและครอบคลุม เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing สามารถปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง

Netflix เป็นบริษัท Streaming ยักษ์ใหญ่อีกแห่งที่นำ Personalized Marketing เข้ามาช่วยสร้างประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้ ด้วยการใช้ AI Business เพื่อแนะนำภาพยนตร์และซีรีส์ที่ตรงตามความสนใจของผู้ใช้ โดยพิจารณาจากประวัติการดูและพฤติกรรมการค้นหา หรือใช้ระบบ AI เพื่อปรับแต่งภาพหน้าปกของเนื้อหาตามพฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้ Netflix อย่างการเลือกภาพหน้าปกที่มีตัวละครที่ผู้ใช้สนใจหรือฉากที่ตรงตามแนวโน้มการดู

สำรวจพฤติกรรมลูกค้าผ่านระบบ Facial Recognition

สำหรับ Facial Recognition หรือการจดจำใบหน้า เป็นการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยระบุและตรวจจับใบหน้าของบุคคลจากภาพหรือวิดีโอ ซึ่งปัจจุบันหลายธุรกิจนำ Facial Recognition มาใช้วิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการ นอกจากการใช้ Facial Recognition ใน Personalized Marketing จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น ความสามารถของ AI ยังมีส่วนช่วยในการปรับปรุงบริการลูกค้าและข้อเสนอที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

ตัวอย่าง

Target ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ เป็นอีกธุรกิจที่นำ AI Business เข้ามาใช้ในการจัดการร้านค้า โดยเฉพาะระบบ Facial Recognition เพื่อติดตามลูกค้าที่เข้ามาในร้าน เช่น ลูกค้าเข้ามาใช้บริการช่วงเวลาไหนเยอะสุด พวกเขาหยุดหรือลองสินค้าประเภทไหนบ้าง? ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ปริมาณลูกค้าในช่วงเวลาต่าง ๆ และปรับปรุงการจัดวางสินค้าและนำเสนอโปรโมชันได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น

นำ Robotics มาใช้ในธุรกิจขนส่งสินค้า

ทุกวันนี้การใช้งาน Robotics หรือหุ่นยนต์มีให้เห็นในหลายอุตสาหกรรม เช่น ใช้หุ่นยนต์ในการประกอบรถยนต์ ใช้หุ่นยนต์ในการจัดการคลังสินค้า หรือใช้หุ่นยนต์บริการลูกค้า เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้มีพัฒนา Robotics ให้สามารถจัดส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ทำให้การใช้ Robotics ขนส่งสินค้ากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในการจัดส่งสินค้า
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากพวกมันสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง

Amazon บริษัท E-Commerce ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาโครงการ Amazon Scout ซึ่งเป็นการใช้หุ่นยนต์จัดส่งพัสดุที่มีขนาดเล็กและเคลื่อนที่ได้อย่างอัตโนมัติ มาช่วย
จัดส่งพัสดุให้ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนที่การจราจรไม่หนาแน่น โดย Amazon มุ่งหวังว่าการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาปรับใช้ในการจัดส่งพัสดุ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ในการดำเนินงาน

มัดรวมทักษะของมนุษย์ที่ระบบ AI Business ไม่สามารถมาทดแทนได้

แม้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก ทำให้ AI Business กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่หลายธุรกิจนำความสามารถของ AI มาประยุกต์กับการทำงาน เพื่อลดเวลาการทำงาน และลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนของมนุษย์ แต่ก็มีบางทักษะที่ระบบ AI ไม่สามารถทำหน้าที่แทนมนุษย์ได้ ส่วนทักษะด้านไหนบ้าง? ในวันนี้ ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์และรับเขียนบทความ SEO จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน

ความฉลาดทางด้านอารมณ์

แม้ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตอบสนองต่อข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ของมนุษย์ อย่างคำพูดหรือท่าทางต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ AI Business ไม่สามารถ
มีประสบการณ์ทางอารมณ์หรือรู้สึกได้เหมือนมนุษย์ เพราะ AI ทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลและทำตามอัลกอริทึมที่ถูกตั้งค่าโปรแกรมไว้เท่านั้น 

ทำให้ระบบ AI ไม่มีความรู้สึกหรือความเข้าใจในความรู้สึกของตัวเองหรือของผู้อื่น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความฉลาดทางด้านอารมณ์ (EQ) ทักษะสำคัญที่ช่วยให้คนทำงานสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดีเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขาดความคิดสร้างสรรค์

เนื่องจาก AI ทำงานโดยการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่และการฝึกฝนบนชุดข้อมูลที่ได้รับมา ทำให้ระบบ AI สามารถสร้างสิ่งใหม่จากข้อมูลที่มันได้เรียนรู้ แต่ไม่สามารถคิดค้น
หรือจินตนาการสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ก่อนได้ ซึ่งต่างจากมนุษย์ที่นำประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายและความรู้สึกส่วนบุคคลมาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้

ไม่มีทักษะความเป็นผู้นำ

การเป็นผู้นำที่ดีต้องอาศัยประสบการณ์ชีวิตและการเรียนรู้จากความล้มเหลวเพื่อปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ เพราะ AI  ไม่มีประสบการณ์ชีวิตและไม่สามารถเรียนรู้จากความล้มเหลวในแบบที่มนุษย์ทำได้

นอกจากนี้การเป็นผู้นำยังต้องการความคิดริเริ่มในการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ และการปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง แต่ AI มีข้อจำกัดในการคิดริเริ่ม ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรม และขาดประสบการณ์ชีวิตที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่ดี ทั้งหมดนี้ทำให้ระบบ AI ไม่สามารถทดแทนความเป็นผู้นำของมนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ไม่มีทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล

ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Skill) ถือเป็นทักษะที่สำคัญในทุกแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การสื่อสาร หรือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
เพราะความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

เนื่องจาก Interpersonal Skill เป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง นั่นคือมีผู้รับฟัง โต้ตอบ หรือตอบสนองซึ่งกันและกัน แต่เครื่องมือ AI ส่วนใหญ่มีความสามารถในการสื่อสาร
แบบทางเดียว จึงไม่สามารถประมวลผลการสื่อสารที่คลุมเครือได้ดีเท่ามนุษย์

ขาดทักษะด้าน Critical Thinking

สำหรับ Critical Thinking หรือทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ เป็นความสามารถในการคิดอย่างมีระบบ การวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้มนุษย์สามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผลภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนได้ ต่างจากเทคโนโลยี AI จะวิเคราะห์ข้อมูลตามที่ถูกตั้งค่าโปรแกรมเอาไว้เท่านั้น จึงขาดความยืดหยุ่น
ความละเอียดอ่อน และสามัญสำนึกแบบมนุษย์


มาถึงตรงนี้คงได้คำตอบแล้วว่า AI ใช้ทำอะไรได้บ้าง? หากธุรกิจไหนต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความสามารถของ AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้มในตลาดได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจในยุคดิจิทัลมาก เห็นจากหลายธุรกิจนำ AI Business เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูล และการดำเนินงานในธุรกิจนั่นเอง แต่รู้ไหมว่า การใช้ระบบ AI ควบคู่กับการทำ SEO จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันที่ดีกว่าในตลาด เนื่องจากสามารถดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพมากกว่าคู่แข่ง