Table of Contents
Keyword คือสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO ให้มีคุณภาพ
Keyword คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO? จริง ๆ แล้ว Keyword หมายถึง คำหรือวลีเฉพาะเจาะจงที่คนทั่วไปใช้ในการค้นหาข้อมูล ผลิตภัณฑ์ หรือบริการบนอินเทอร์เน็ต โดยทั่วไปจะค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine) อย่าง Google ซึ่ง Keyword คือองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการทำการตลาดออนไลน์และการเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO รวมถึงยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอีกด้วย
หากจะเปรียบเทียบความสำคัญของ Keyword กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า Keyword คือสิ่งที่สำคัญกับการทำ SEO อย่างไรนั้น ADME ต้องขอบอกเลยว่า Keyword ที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการทำ SEO เปรียบเสมือนคำบรรยายตึก หรือ Directory ที่บ่งบอกว่าเรามี บริการอะไรหรือทำอะไรบ้าง ซึ่งถ้าอยากให้คนหาตึกเราเจอ เราก็จะต้องทำป้ายบอกทางที่ดีและมีถนนที่เรียบสวย และนั่นก็เปรียบเสมือนการทำ SEO หากเราเลือกผู้เชี่ยวชาญ หรือบริษัทรับทำ SEO ติดหน้าแรกอย่างเหมาะสมเราก็จะได้ผลลัพธ์ในการทำ SEO ของเว็บไซต์ที่มีคุณภาพตอบโจทย์กับการใช้งานและถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของ Google
นอกจากนี้รากฐานของอาคารก็ยังต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องและมีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ซึ่ง Keyword สำหรับการทำ SEO ก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องผ่านการทำ Keyword Research เพราะการทำ Keyword Research คือกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นและดึงดูดปริมาณการเข้าชมของเว็บไซต์ ดังนั้นเมื่อแนวโน้มการค้นหาและพฤติกรรมผู้ใช้งานเครื่องมือค้นหา (Search Engine) เปลี่ยนไปก็ต้องมีการค้นคว้าและวิเคราะห์ว่า Keyword ไหนที่เกี่ยวข้องและมีศักยภาพในการกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์นั่นเอง
ประเภทของ Keyword แบ่งออกเป็นกี่ประเภท
โดยทั่วไปแล้วประเภทของ Keyword สำหรับการทำ SEO จะสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ และแต่ละประเภทก็จะมีวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ที่แตกต่างกันไป ซึ่งในฐานะที่ ADME เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO เราจะขอพาไปรู้จักกับประเภทของ Keyword มากขึ้นว่าแต่ละประเภทของ Keyword คืออะไรและมีการนำไปใช้กับการเขียนคอนเทนต์ SEO หรือบริการรับเขียนคอนเทนต์ SEO อย่างไรบ้าง
Big Head Keyword
Big Head Keyword คือคำหรือวลีสั้น ๆ ที่โดยทั่วไปประกอบด้วย 1 คำ หรือ 2 คำ จุดเด่นเฉพาะของ Keyword คือเป็นคำกว้าง ๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลาย ทั้งยังเป็นประเภทของ Keyword ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีปริมาณการค้นหามากที่สุด แต่ก็มีการแข่งขันสูงสุดเช่นกัน
วัตถุประสงค์หลักของ Big Head Keyword คือการดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือเน้นปริมาณคนเข้าเว็บไซต์นั่นเอง แต่ด้วยความที่เป็น Keyword ที่มีความหมายค่อนข้างกว้าง จึงอาจจะทำให้เกิด Conversion ได้ไม่สูงก็เป็นไปได้
โดยทั่วไปแล้ว Big Head Keyword จะถูกนำไปใช้ในการสร้าง Awareness เมื่อผู้ใช้งานเริ่มเสิร์ชหาข้อมูลต่าง ๆ หรือรวบรวมข้อมูลทั่วไปก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น “รองเท้า” หรือ “กาแฟ”
Chunky Middle Keyword
Chunky Middle Keyword คือคำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยทั่วไปจะประกอบด้วยคำ 2 ถึง 3 คำ จุดเด่นเฉพาะของ Keyword คือเป็นคำที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า Big Head Keyword แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเท่ากับ Long-tail Keyword มีปริมาณการค้นหาและการแข่งขันปานกลาง เป็นการเพิ่มหมวดหมู่สินค้าหรือบริการให้กับ Big Head Keyword เพื่อให้มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์หลักของ Chunky Middle Keyword คือการดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่ตรงกลุ่มมากขึ้นเพื่อให้คอนเทนต์ หรือบทความนั้น ๆ ถูกจัดอันดับได้ง่ายกว่าการเลือกใช้ Big Head Keyword
โดยทั่วไปแล้ว Chunky Middle Keyword จะถูกนำไปใช้เมื่อผู้ใช้งานเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมักจะอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจเพิ่มเติม เนื่องจากรู้แน่ชัดแล้วว่ากำลังมองหาอะไร เช่น “รองเท้าวิ่ง” หรือ “กาแฟออร์แกนิก”
Long-tail Keyword
Long-tail Keyword คือคำตั้งแต่ 3 คำขึ้นไป รวมกันจนกลายเป็นข้อความยาว ๆ มีความเฉพาะเจาะจงที่สุด ซึ่งจุดเด่นเฉพาะของ Keyword คือเป็นคำที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า Big Head Keyword และ Chunky Middle Keyword มีปริมาณการค้นหาและการแข่งขันต่ำที่สุด แต่เป็น Keyword ที่ตอบโจทย์การสั่งซื้อสินค้าและบริการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
วัตถุประสงค์หลักของ Long-tail Keyword คือการดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น ซึ่ง Keyword ประเภทนี้จะดึงดูดผู้ชมเว็บไซต์ที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิด Conversion และสามารถนำไปสู่อัตรา Conversion ที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากเป็น Keyword ที่ดึงดูดผู้ใช้งานที่เสิร์ชหาข้อมูลด้วยเจตนาที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ Long-tail Keyword ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการทำการตลาดเฉพาะกลุ่มอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว Long-tail Keyword จะถูกนำไปใช้เมื่อผู้ใช้งานเสิร์ชหาข้อมูลในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้ามากขึ้น เช่น “รองเท้าวิ่งเทรลสำหรับผู้หญิง” หรือ “เมล็ดกาแฟออร์แกนิกอาราบิก้า คุณภาพเกรด A”
จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้ Keyword แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับเป้าหมายเฉพาะของเจ้าของเว็บไซต์และลักษณะคอนเทนต์ SEO ที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องการนำเสนอแก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง Big Head Keyword สามารถใช้เพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และเพิ่มการมองเห็นโดยทั่วไป ในขณะที่ Chunky Middle Keyword จะมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นและสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายกำลังค้นหาได้ และสุดท้าย Long-tail Keyword จะมีความเฉพาะเจาะจงมากที่สุดและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดึงดูดลูกค้าหรือผู้อ่านที่มีเจตนาชัดเจน
เรียกได้ว่าทั้ง 3 ประเภท Keyword คือกุญแจสำคัญของการทำ SEO เลยก็ว่าได้ ดังนั้นก่อนที่จะเลือก Keyword ไหนเพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพ การทำ Keyword Research คือสิ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ เพราะจะทำให้รู้ว่าตอนนี้ผู้ใช้งานชอบเสิร์ชอะไร ใช้ Keyword แบบไหนบ้างในการเสิร์ชหา เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้แล้วก็จะส่งผลให้การทำ SEO ของเว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงยังสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ในเว็บไซต์ที่มีคุณภาพตอบโจทย์กับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการเสิร์ชหาอีกด้วย
สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อเลือกใช้ Keyword คืออะไรบ้าง
เมื่อรู้จักกับประเภทของ Keyword ว่าแต่ละประเภทของ Keyword คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ADME ต้องขอบอกเลยว่าหลังจากการทำ Keyword Research เพื่อเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสม ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจ Keyword เหล่านั้นสอดคล้องกับเนื้อหา เป้าหมายเว็บไซต์ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็จะมีดังนี้
✔ Search Volume
คือการประเมินว่า Keyword นั้น ๆ มีจำนวนการค้นหาอยู่ที่เท่าไหร่ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาสูงอาจนำมาซึ่งการเข้าชมที่มากขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะมีการแข่งขันที่มากขึ้นเช่นกัน ส่วน Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาต่ำจะติดจัดอันดับได้ง่ายกว่า แต่อาจไม่ดึงดูดผู้เข้าชมมากนัก
✔ Keyword Difficulty
คือการประเมินว่า Keyword นั้น ๆ มีอัตราการแข่งขันเป็นอย่างไร เป็นอัตราการแข่งขันที่สูงหรือต่ำ Keyword ที่มีการแข่งขันสูงจะมีโอกาสในการติดอันดับสูงที่ยากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเว็บไซต์ใหม่ หรือมี Domain Authority ที่ต่ำกว่า ดังนั้นการเลือกใช้ Keyword ที่มีการแข่งขันต่ำอาจให้โอกาสที่ดีกว่าในการจัดอันดับและเพิ่มการมองเห็น
✔ Relevance
คือการประเมินว่า Keyword นั้น ๆ สามารถเชื่อมโยงได้กับคอนเทนต์ สินค้า บริการ รวมถึงเป้าหมายของเว็บไซต์หรือไม่ ซึ่งการใช้ Keyword ที่ไม่เกี่ยวข้องอาจทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เกิดความรู้สึกในด้านลบและส่งผลเสียต่อประสบการณ์ของผู้ใช้
✔ Search Intent
คือการประเมินว่าความต้องการของผู้ที่ค้นหา Keyword นั้น ๆ คืออะไร ตอบโจทย์และตรงกับสินค้า บริการ รวมถึงเป้าหมายของเว็บไซต์หรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้เสิร์ชหา “ซื้อรองเท้าวิ่งสีแดง” ก็เท่ากับว่าผู้ใช้น่าจะมีความตั้งใจในการซื้อแล้ว ดังนั้นเนื้อหาภายในเว็บไซต์ควรอธิบายเกี่ยวกับสิ่งนั้นอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
✔ Related Keyword Suggestion
คือการค้นหาว่ามี Keyword ที่เป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่สามารถทดแทน หรือนำมาใช้ร่วมกับ Keyword หลักหรือไม่ ซึ่ง Keyword เหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อาจมีการเลือกใช้ Chunky Middle Keyword หรือ Long-tail Keyword เพื่อความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้สามารถกระจาย Keyword และดึงดูดปริมาณการค้นหาได้กว้างขึ้น
เมื่อรู้ถึงปัจจัยในการเลือก Keyword คืออะไรบ้างอย่างละเอียดแล้ว รับรองว่าเว็บไซต์ต่าง ๆ จะสามารถปรับการมองเห็นเว็บไซต์ให้เหมาะสมและจัดเนื้อหาภายในเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของผู้ชมเว็บไซต์ได้ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิกได้แล้ว ยังนำไปสู่อัตรา Conversion ที่สูงขึ้นได้อีกด้วย
รวมโปรแกรมค้นหา Keyword ฟรี สำหรับ SEO
Keyword Tool หรือ โปรแกรมค้นหา Keyword คือเครื่องมือที่ช่วยให้การค้นหา Keyword ซึ่งก็จะมีทั้งแบบที่สามารถใช้งานได้ฟรีและแบบเสียเงิน โดยทั่วไปเครื่องมือนี้จะทำให้รู้ว่าปัจจุบันผู้คนค้นหาคำ หรือ Keyword อะไรกันบน Search Engine ทั้งยังมีการให้ข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เช่น ปริมาณที่คนค้นหาของแต่ละ Keyword, ประเมินถึงความยากง่ายของแต่ละ Keyword สำหรับการทำ SEO, ประเมินราคาในการประมูลซื้อ Search Ads รวมถึงช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์เบื้องต้น อย่างอันดับของเว็บไซต์ หรือจำนวนเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น
ซึ่งหากใครที่อยากรู้ว่าโปรแกรมค้นหา Keyword ฟรี สำหรับ SEO มีอะไรบ้างนั้น ทาง ADME ได้รวบรวมโปรแกรมและจุดเด่นของแต่ละโปรแกรมมาให้แล้วด้านล่างนี้
✔ Google Keyword Planner
แสดงข้อมูลจาก Google โดยตรง โดยให้ข้อมูลปริมาณการค้นหาและคำแนะนำ Keyword ที่มีความแม่นยำสูง มีประโยชน์ในการหา Keyword ที่มีประสิทธิภาพในผลการค้นหาของ Google และแคมเปญ Google Ads
✔ Google Trends
สามารถระบุหัวข้อที่กำลังมาแรงและ Keyword ตามช่วงเวลาได้ โดยจะแสดงให้เห็นข้อมูลเชิงลึกว่าความสนใจในการค้นหาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป และแสดงรายละเอียดตามภูมิศาสตร์ของความนิยม Keyword นั้น ๆ
✔ GetKeyword
จำกัดผลการค้นหาของแต่ละคำให้แคบลง ใช้หา Keyword ได้ทั้งในประเทศ ต่างจังหวัด และเมืองต่าง ๆ วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์แทนการใช้ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล
✔ QuestionDB
มุ่งเน้นไปกับการค้นหา Keyword ที่เป็นคำถามยอดนิยมที่ถามกันบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถหา Long-tail Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงตรงกับสิ่งที่คนค้นหาได้มากขึ้น
✔ SEMrush
เครื่องมือ SEO all-in-one ที่มีตัวช่วยค้นหา Keyword ให้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับปริมาณการค้นหา การแข่งขัน และความยากของ Keyword
✔ Keyword Tool
เน้นข้อมูล หรือคำ Long-tail Keyword จากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของ Google และไม่ได้อยู่บน Google Keyword Planner เช่น Bing, YouTube, Amazon, eBay, Instagram หรือ Pinterest
✔ Soovle
เป็นเครื่องมือที่สามารถค้นหา Keyword มากกว่า 15 คำในเวลาเดียวกัน มาพร้อมการแนะนำ Keyword ในเครื่องมือค้นหาและเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Google, Bing และ YouTube
✔ AnswerThePublic
สามารถหาคำ หรือวลีที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่ต้องการค้นหาได้ ทั้งยังสามารถช่วยให้หา Long-tail Keyword ได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้เครื่องมือค้นหา Keyword คือเครื่องมือที่ใช้งานได้ฟรี แต่ก็มีตัวเลือกของการใช้งานแบบเสียเงินให้เลือกใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งหากใครยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้เครื่องมือไหนดีในการหา Keyword ทาง ADME ขอแนะนำให้ลองเลือกใช้แบบฟรีเพื่อหาอันที่ตอบโจทย์ที่สุดก่อนได้เลย
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่า Keyword คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO? รวมถึงได้รู้แล้วว่า Keyword Research คืออะไร ทุกคนคงจะรู้แล้วใช่ไหมว่า Keyword คือสิ่งที่สำคัญกับการทำ SEO มาก ๆ ดังนั้นหากเจ้าของเว็บไซต์แบรนด์ธุรกิจ สินค้า หรือบริการคนไหนกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำ SEO ที่ ADME ก็มีบริการด้าน SEO ที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริการปรับปรุงเว็บไซต์ บริการรับเขียนคอนเทนต์ หรือบริการอื่น ๆ เกี่ยวกับ SEO ก็ครบ จบ ในที่เดียว