Skip to content
สำหรับคนทำธุรกิจมือใหม่ จะมาบอกข้อระวังการทำ SEO มีอะไรบ้าง
Table of Contents

เพิ่มอันดับเว็บไซต์แบบปลอดภัย ด้วยขั้นตอนการทำ SEO ที่ถูกต้อง

ขั้นตอนการทำ SEO เป็นกุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ แต่ทราบหรือไม่ว่าการทำ SEO หากเลือกทำไม่ถูกวิธีอาจเกิดผลเสียได้ โดยเฉพาะการใช้เทคนิค Black Hat SEO เช่น Keyword Stuffing คือการใช้คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ มากเกินไปเพื่อให้ Search Engine มองว่าเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับคำนั้น ๆ และทำให้อันดับสูงขึ้น หรือการใช้เทคนิคอื่น ๆ ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำเหล่านี้อาจทำให้เว็บไซต์ถูกลงโทษจาก Google เนื่องจากใช้วิธีไม่โปร่งใสและไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ ดังนั้นบทความนี้ ADME บริษัทรับทําเว็บให้ติดหน้าแรก Google
จะพาคุณไปรู้จักข้อควรระวังในการทำ SEO ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณมีผลลัพธ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ใช้ขั้นตอนการทำ SEO ผิดชีวิตเปลี่ยน เรื่องควรระวังที่ต้องรู้

การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกของ Google ผ่านกระบวนการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ Google โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมต เป็นการช่วยเพิ่มการมองเห็นให้แก่เว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสในการสร้างยอดขายและการขยายฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้เหนือกว่าคู่แข่ง 

ซึ่งขั้นตอนการทำ SEO สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท โดยหนึ่งในประเภทของขั้นตอนการทำ SEO ที่อาจเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วแต่ไม่ยั่งยืน คือการทำ Black Hat SEO ซึ่งเป็นเทคนิคการทำ SEO ที่ใช้กระบวนการหลอกลวงเครื่องมือค้นหาด้วยวิธีที่ผิดและไม่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าวิธีนี้จะเห็นผลในระยะสั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูก Google ลงโทษ โดยการลดอันดับหรือแม้กระทั่งการถูกแบนเพราะเป็นวิธีการที่ขัดกับนโยบายและหลักเกณฑ์ของ Google ดังนั้นการเลือกขั้นตอนการทำ SEO ที่ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสามารถสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในยุคออนไลน์ได้ในระยะยาว

6 สิ่งที่ต้องระวังในขั้นตอนการทำ SEO เพื่อมีผลลัพธ์อันยั่งยืน

อย่างที่ทราบกันว่าขั้นตอนการทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกของ Google โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อลงทุนซื้อโฆษณาจำนวนมากในการโปรโมตเว็บไซต์ ด้วยเหตุนี้การทำ SEO จึงเป็นขั้นตอนที่ไม่เพียงมีความคุ้มค่า แต่ยังมีความยั่งยืนในระยะยาว
แต่การทำ SEO ก็ควรใช้ขั้นตอนวิธีการทำที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาและเกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เพราะหากเลือกทำไม่ถูกวิธีอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเว็บไซต์ธุรกิจของคุณได้ และอาจนำไปสู่การทำให้ธุรกิจสูญเสียการเติบโตและโอกาสในการแข่งขันในตลาดออนไลน์

ดังนั้นเพื่อให้คุณระมัดระวังในการขั้นตอนการทำ SEOมากยิ่งขึ้น ADME Media บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร รวมถึงรับทำ SEO รายเดือน จึงได้รวบรวม 6 ข้อ
ควรระวังในการทำ SEO มาฝากดังนี้

การยัดคำหลักมากเกินไป (Keyword Stuffing)

Keyword Stuffing คือการพยายามใส่คีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำหลักในเนื้อหาของเว็บไซต์ถี่และซ้ำเกินไปจนดูผิดธรรมชาติเพื่อหวังให้ Search Engine อย่าง Google
ดันเว็บไซต์ให้ถูกจัดอันดับสูงขึ้นในหน้าแรกของการค้นหา ซึ่งการทำ Keyword Stuffing คือ ขั้นตอนการทำ SEO ในรูปแบบ Black Hat SEO เป็นวิธีการที่ไม่คำนึงถึงเนื้อหา
หรือกฎเกณฑ์ของ Google และอาจทำให้เว็บไซต์ถูกลงโทษ สูญเสียความน่าเชื่อถือได้ เนื่องจากเนื้อหาดูผิดแปลก ไม่น่าสนใจ และไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ดังนั้นการทำ SEO
จึงควรมีการระมัดระวัง Keyword Stuffing เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียตามมา

การใช้เนื้อหาซ้ำซ้อน (Duplicate Content)

การใช้เนื้อหาซ้ำซ้อน หรือ Duplicate Content เป็นอีกข้อควรระวังในการทำ SEO เนื่องจากการใช้เนื้อหาซ้ำซ้อน ใช้เนื้อหาหรือข้อความเดียวกันซ้ำในหลายหน้าเว็บไซต์ เป็นเนื้อหาที่ไม่มีการปรับแต่ง เพิ่มคุณค่าให้มีความแตกต่างจากต้นฉบับ เสมือนการคัดลอกวางซ้ำไปซ้ำมาในหลายหน้าเว็บ สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลเสียต่อการจัดอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ได้ เพราะ Google จะมองว่าเนื้อหานั้นไม่มีความหลากหลายและไม่มีคุณภาพ ไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่าหรือเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน การระมัดระวังในส่วนนี้จึงสำคัญ

การซื้อ Backlink (Paid Links)

การทำ Backlinks เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับการทำ SEO และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยเฉพาะ Backlinks ที่มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือมีเนื้อหาเชื่อมโยงกัน แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อ Backlinks (Paid Links) ครั้งละจำนวนมาก ๆ โดยการจ่ายเงินให้เว็บไซต์อื่นเพื่อหวังเพิ่มอันดับการค้นหาอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนการทำ SEO ที่ควรระมัดระวัง เพราะหากคุณใช้วิธีซื้อ Backlinks จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือมีคุณภาพต่ำ อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษและอันดับลดลงได้

การใช้เทคนิค Black Hat SEO

Black Hat SEO เป็นขั้นตอนการทำ SEO ที่มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะอัลกอริทึม (Algorithm) ของ Search Engine อย่าง Google ด้วยวิธีการที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนด เพื่อทำให้เว็บไซต์มีการติดอันในหน้าแรกของการค้นหาอย่างรวดเร็ว เช่น Keyword Stuffing, Cloaking, Duplicate Content, Paid Links หรืออื่น ๆ แม้ Black Hat SEO
จะเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็เป็นวิธีการที่มีความเสี่ยงสูง การทำ SEO จึงควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำ Black Hat SEO เพื่อป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ถูกลงโทษ

การละเลยการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)

การทำ SEO เป็นขั้นตอนการทำที่มุ่งหวังให้เว็บไซต์ปรากฏในหน้าแรกของคำค้นหาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้น การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience: UX) จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยในขั้นตอนการทำ SEO เพราะประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว การใช้งานที่ง่าย ไม่ก่อให้เกิดความสับ สิ่งเหล่านี้เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานเว็บไซต์และสร้างโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น

การไม่อัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ

แน่นอนว่าการทำเว็บไซต์และการทำ SEO เนื้อหาคอนเทนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานใช้เวลาในเว็บไซต์นานขึ้น รวมถึงลดอัตราการออกจากเว็บไซต์ลง ดังนั้นข้อควรระวังในขั้นตอนการทำ SEO คือการอัปเดตเนื้อหาอย่างเสมอ หากละเลยและไม่อัปเดต เนื้อหาคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์ก็จะล้าสมัย ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ส่งผลให้สูญเสียความสนใจและมีการเข้าชมเว็บไซต์ลดลงได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ การอัปเดตเนื้อหาคอนเทนต์ให้เป็นปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่คนทำ SEO ต้องระมัดระวัง

พาดูว่า Black Hat SEO เป็นขั้นตอนการทำ SEO ที่ส่งผลเสียยังไง?

Black Hat SEO เป็นกระบวนการหรือขั้นตอนการทำ SEO ที่ใช้เทคนิคที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์หรือแนวทางของ Google เพื่อพยายามทำให้เว็บไซต์ติดอันดับอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการทำ Keyword Stuffing การสร้างลิงก์ย้อนกลับไปผิดกฎหมาย การทำคัดลอกเนื้อหา หรือวิธีการอื่น ๆ ซึ่ง Black Hat SEO เป็นขั้นตอนการทำ SEO ที่เห็นผลได้เร็วในระยะเวลาอันสั้นช่วงแรก แต่อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ในระยะยาวได้หากไม่ระมัดระวัง ดังนั้นในส่วนนี้ ADME บริษัทรับการตลาดออนไลน์ครบวงจรและมีบริการรับทำ SEO จะพาไปดูผลเสียจากการ Black Hat SEO ที่มีผลต่อเว็บไซต์ของคุณว่ามีอะไรบ้าง? ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความระมัดระวังและต้องมีการคำนึงในการทำหลายด้าน หากคุณไม่ระมัดระวัง หรือเลือกทำ Black Hat SEO โดยการใช้เทคนิคต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบให้อันดับเว็บไซต์ของคุณลดลงจากการถูกลงโทษหรือถูกแผนออกจากผลค้นหาของ Google ได้ เพราะ Black Hat SEO เป็นขั้นตอนที่ผิดธรรมชาติจากการหลีกเลี่ยงการทำงานของอัลกอริทึม (Algorithm) Google ในทางที่ไม่โปร่งใส หาก Google มีการตรวจเจอ อาจทำให้เว็บไซต์ถูกลดอันดับ สูญเสียการมองเห็น และความน่าเชื่อถือในระยะยาว

หากคุณไม่ทำปฏิบัติตามตามกฎเกณฑ์ของ Google ในขั้นตอนการทำ SEO หรือเลือกใช้ Black Hat SEO อาจส่งผลให้ CTR (Click-Through Rate) รวมถึงเวลาในการเข้าชมเว็บไซต์ลดลงในปริมาณมาก เนื่องจากการละเลยกฎเกณฑ์และทำ Black Hat SEO มักทำให้เนื้อหาคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์ดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ตรงตามความสนใจของผู้ใช้งาน และไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ ส่งผลให้ผู้ใช้งานไม่สนใจเว็บไซต์และออกจากเว็บไซต์ทันที CTR และเวลาในการเข้าชมจึงสั้นลง ทั้งยังทำให้เกิดการสูญเสียภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วย

หนึ่งในผลกระทบที่อาจตามมาหากคุณไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และไม่ระมัดระวังการทำ Black Hat SEO คือการลดประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience: UX) เพราะการไม่ระมัดระวังขั้นตอนเหล่านี้จะส่งผลให้เมื่อผู้ใช้มีการเข้ามาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์จะพบเนื้อหาที่ซ้ำซาก ไม่ตรงใจ หรือไม่ตรงตามความคาดหวัง นอกจากนี้การทำ Black Hat SEO อาจส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณทำงานช้าลง มีโครงสร้างการทำงานที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ผู้ใช้งานส่วนมากจึงได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี และหากเกิดเหตุการณ์นี้บ่อยครั้ง Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ไม่มีคุณภาพและทำให้เว็บไซต์ถูกลดอันดับลง

ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจมีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของทั้งพาร์ตเนอร์ธุรกิจและกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและสร้างผลกำไรในอนาคตได้ หากธุรกิจมีเว็บไซต์และไม่ทำตามกฎเกณฑ์การทำ SEO หรือใช้เทคนิค Black Hat SEO อาจส่งผลให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือลดลงอย่างมาก เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ไม่โปร่งใส ทำให้เว็บไซต์ไม่น่าสนใจ ไม่น่าค้นหา และทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกไม่พึงพอใจ นำไปสู่การสูญเสียความไม่เชื่อมั่นในธุรกิจ ตลอดถึงเลือกหันไปหาคู่แข่งที่มีเว็บไซต์น่าเชื่อถือและตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า

หากหลีกเลี่ยงขั้นตอนการทำ SEO แบบ Black Hat SEO ช่วยอะไรได้?

เมื่อทราบถึงข้อควรระวังและผลเสียของการทำ SEO  ที่ไม่ถูกต้องแล้ว หากไม่อยากสูญเสียความเชื่อมั่นและต้องการให้ธุรกิจเติบโตในยุคออนไลน์ การเลือกขั้นตอนการทำ SEO
ที่ถูกต้องและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปรับปรุงให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับการค้นหาที่ดีขึ้นใน Google อย่างยั่งยืน นอกจากนี้การหลีกเลี่ยง Black Hat SEO และการใช้เทคนิคที่ถูกต้องยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ ทำให้เว็บไซต์และธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่งผลให้มีการเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า
สู่การสร้างผลกำไรและการเติบโตในระยะยาว

เห็นได้ว่าขั้นตอนการทำ SEO เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความสำคัญ เนื่องจากการทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกของ Google รวมถึงช่วยสร้าง
การรับรู้และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้แก่ธุรกิจได้เป็นอย่างดี แต่การเลือกทำ SEO ก็ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยง Black Hat SEO เพราะอาจส่งกระทบต่อเว็บไซต์ได้หลายด้าน และหากคุณสนใจทำ SEO หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า Keyword Stuffing คืออะไร? ต้องเริ่มทำ SEO ยังไง? ADME Media เราเป็นเอเจนซีรับทำการตลาดออนไลน์ พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาผ่านผู้เชี่ยวชาญ อยากสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในโลกออนไลน์ติดต่อ ADME มาได้เลย