Skip to content
Evergreen Content ยั่งยืนไม่ตกเทรนด์

Evergreen Content ประเภทของคอนเทนต์ที่ยั่งยืนเหนือกาลเวลา

Table of Contents

Evergreen Content คืออะไร? ADME เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอาจจะเคยได้ยินคำว่า Evergreen Content ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้วอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะยังมีบางคนที่ยังไม่ได้รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของ Evergreen Content สักเท่าไหร่ ซึ่งจริง ๆ แล้วความหมายของ Evergreen Content คือประเภทของคอนเทนต์ที่จัดอยู่ในกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านการสร้างเนื้อหา โดยบริการรับเขียนคอนเทนต์นั้นก็จะใช้กลยุทธ์ในการเขียนบทความแบบ Evergreen Content เพื่อที่จะสามารถดึงดูดผู้อ่านเข้ามาในเว็บไซต์ได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง

โดย Evergreen Content จะเป็นคอนเทนต์ที่เน้นให้ข้อมูลที่มีคุณค่า ตรงประเด็น และไม่คำนึงถึงกาลเวลา ทั้งยังเป็นหัวข้อที่ถูกค้นหาอยู่เรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นไวรัล หรือเป็นกระแสแต่อย่างใด ซึ่งหัวข้อของ Evergreen Content ตัวอย่างก็จะเป็นพวกคอนเทนต์ที่ให้ความรู้พื้นฐาน, คอนเทนต์ How-to หรือ Tips and Tricks เป็นต้น

เรียกได้ว่าในขณะที่เทรนด์ต่าง ๆ เกิดขึ้นและผ่านไป แต่ Evergreen Content ก็จะยังคงอยู่และยังคงดึงดูดปริมาณการเข้าชม รวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้คนที่ค้นหาหัวข้อดังกล่าวในปัจจุบันได้อยู่ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง Evergreen Content ก็ยังดูเป็นคอนเทนต์ที่ใหม่ มีคุณค่า และมีความน่าสนใจตลอดเวลา

แบบไหนที่เรียกว่า Evergreen Content

สำหรับลักษณะของ Evergreen Content นั้น จะต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาลึก ชัดเจน และมีคุณภาพ ไม่ได้พูดถึงแค่เพียงผิวเผิน ต้องเป็นคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลถูกต้องและมีคุณค่าแก่ผู้ที่อ่าน ทั้งนี้ยังต้องเป็นหัวข้อคอนเทนต์ที่ดีและเนื้อหาคอนเทนต์ตายตัวไม่มีวันตกยุค ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ซึ่งจะแตกต่างจากคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับข่าวสารหรือเทรนด์ปัจจุบัน 

หัวข้อคอนเทนต์ดี เนื้อหามีคุณภาพ

เนื้อหาลึก ตายตัว อธิบายชัดเจน

เนื้อหาอ่านซ้ำได้ตลอด ไม่ต้องปรับตามเทรนด์ มีการค้นหาตลอดเวลา

นอกจากนี้ หาก Evergreen Content เขียนโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือรู้จริงในเรื่องนั้น ๆ ก็จะทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากการอ่านอย่างแท้จริงและยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคอนเทนต์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ตัวอย่างของ Evergreen Content 

  • คอนเทนต์ How-to แนะนำวิธีใช้
  • คอนเทนต์ Tutorials
  • คอนเทนต์ Tips ต่าง ๆ
  • คอนเทนต์สูตรอาหาร
  • คอนเทนต์รีวิว เปรียบเทียบสินค้าและบริการ

Evergreen Content สำคัญกับการทำ SEO มากแค่ไหน

ด้วยความที่ Evergreen Content เป็นกลยุทธ์ที่อยู่ภายในบริการรับเขียนคอนเทนต์ SEO และ Evergreen Content คือคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาที่มีคุณค่า เป็นคอนเทนต์ที่ไม่มีวันล้าสมัยหรือตกยุค จึงส่งผลให้ Evergreen Content มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

ช่วยเพิ่มผลลัพธ์การเข้าชมเว็บไซต์ที่ยั่งยืน

Evergreen Content สามารถดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพจึงทำให้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะค้นหาและค้นพบข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่ม Organic Traffic ให้เว็บไซต์มีการเข้าชมอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้

ช่วยเพิ่มอันดับ SEO Rankings

อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กันว่า Search Engine มีเป้าหมายในการคัดเลือกคอนเทนต์เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับเนื้อหาของคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและมีคุณค่ามากที่สุด จึงทำให้ Evergreen Content มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มการจัดอันดับของ SEO ได้ ตัวอย่างเช่น Google ที่ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นไปตามหลัก E-A-T (Expertise Authoritativeness Trustworthiness) เป็นต้น

ช่วยสร้าง Backlinks จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

เนื่องจาก Evergreen Content คือประเภทของคอนเทนต์ที่มีคุณค่าจึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์อื่นจะสร้างลิงก์ หรือ Backlinks กลับเข้ามาสู่เว็บไซต์ได้ การที่เว็บไซต์ได้รับ Backlinks สามารถบ่งบอกได้ถึงคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของบทความภายในเว็บไซต์ ไม่เพียงเท่านั้น Backlinks ที่มีคุณภาพยังเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ SEO ซึ่งส่งผลให้อันดับ SEO Ranking สูงขึ้น

ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว

การทำ Evergreen Content เป็นกลยุทธ์ที่อยู่ภายในบริการรับเขียนคอนเทนต์ SEO ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ต่างจาก Topical Content ที่ต้องทันต่อเทรนด์ต่าง ๆ และต้องมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเนื้อหาภายใน Evergreen Content เป็นเนื้อหาที่สามารถคงอยู่ได้ตลอดกาล ไม่ต้องอัปเดตบ่อยครั้ง

หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่า Evergreen Content คืออะไร และสำคัญกับการทำ SEO อย่างไรบ้าง ADME

ต้องขอบอกเลยว่าถึงแม้เนื้อหา Evergreen Content  จะสำคัญกับการทำ SEO หลากหลายด้าน แต่การทำ SEO ก็ไม่ควรเน้นไปที่ Evergreen Content เพียงอย่างเดียว เพราะด้วยความที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่ากลยุทธ์เพียงอย่างเดียวจะรับประกันความสำเร็จได้ตลอดไป

เลือกทำคอนเทนต์ Evergreen Content หรือ Topical Content ดีกว่ากัน

ADME ขอเล่าก่อนเลยว่า จริง ๆ แล้ว นอกจาก Evergreen Content ก็ยังมีคอนเทนต์อีกประเภทที่เรียกว่า Topical Content โดยคอนเทนต์ประเภทนี้จะมีเนื้อหาที่อิงตามเหตุการณ์ในปัจจุบันที่กำลังเป็นไวรัวอยู่ เน้นยอดการมีส่วนร่วมของผู้คนในเวลานั้น ๆ เป็นหลัก 

ซึ่งหากถามว่า Evergreen Content หรือ Topical Content เลือกทำแบบไหนดีกว่ากัน จริง ๆ แล้วการเลือกระหว่าง Evergreen Content และ Topical Content นั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการสร้างสรรค์เนื้อหา หากเป้าหมายของธุรกิจคือการปรับปรุง SEO เพื่อให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับ SEO Ranking ที่สูงขึ้น ทาง ADME ขอแนะนำว่า Evergreen Content คือตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจได้มากขึ้นและโดยทั่วไปแล้วการทำ SEO จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนถึงจะเห็นผลลัพธ์ ดังนั้นการเลือกเนื้อหาที่สามารถอ่านได้อยู่ตลอดเวลา ไม่มีวันตกยุค จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า

ในทางกลับกัน หากเป้าหมายของธุรกิจคือความสำเร็จด้านการตลาดบนโซเชียลมีเดียที่เน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Topical Content คือสิ่งที่เหมาะสมกว่า เพราะเนื้อหาของคอนเทนต์ประเภทนี้จะเน้นไปที่หัวข้อที่กำลังมาแรงและเป็นไวรัลในปัจจุบัน ซึ่งหากธุรกิจมีการนำเสนอหัวข้อและเนื้อหาที่สดใหม่ น่าสนใจ แน่นอนว่าธุรกิจสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ง่ายยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบ Evergreen Content VS Topical Content

อย่างที่รู้กันไปแล้วว่า Evergreen Content คือคอนเทนต์ประเภทที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์และมีคุณค่า สามารถกลับมาอ่านได้ตลอด ไม่ต้องพึ่งพาไวรัล หรือกระแสจากเหตุการณ์ปัจจุบัน และ Topical Content คือคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเทรนด์ แนวโน้ม หรือเหตุการณ์ปัจจุบัน เน้นยอดการมีส่วนร่วม ณ เวลานั้น ซึ่งหากใครยังนึกภาพไม่ค่อยออกว่าคอนเทนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ทาง ADME ขอพาไปส่องความแตกต่างระหว่าง Evergreen Content และ Topical Content ให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น 

  • การทำ Search Engine Optimization (SEO)
    • Evergreen Content เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ทำให้สามารถอยู่ในอันดับที่ดีบน Search Engine ได้ ซึ่งถือเป็นคอนเทนต์ที่ดึงดูดการเข้าชมเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง
    • Topical Content เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์, บทความข่าว, หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยมีโอกาสที่จะมีการดึงดูดความสนใจได้ในระยะแรกที่ถูกเผยแพร่ โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวข้องกับแนวโน้มในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ประเภทนี้อาจสูญเสียความน่าสนใจไปได้อย่างรวดเร็วเมื่อแนวโน้มของเทรนด์ หรือเหตุการณ์นั้น ๆ สิ้นสุดลง


  • การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย
    • Evergreen Content ผู้ชมมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์อยู่ตลอด เนื่องจากเนื้อหาของคอนเทนต์ประเภทนี้จะตอบสนองต่อคำถามที่สำคัญ, ปัญหา, หรือความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
    • Topical Content การมีส่วนร่วมของผู้ชมค่อนข้างสูงเมื่อหัวข้อนั้น ๆ กำลังเป็นที่นิยม แต่อาจจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อความนิยมนั้นหายไป


  • ความถี่ของการสร้างสรรค์คอนเทนต์
    • Evergreen Content เนื่องจากเป็นประเภทของคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และกลับมาอ่านได้ตลอด ทำให้ไม่ต้องกลับมาแก้ไข หรืออัปเดตบ่อย 
    • Topical Content เนื่องจากเป็นประเภทของคอนเทนต์ที่เน้นเนื้อหาที่เป็นเทรนด์ จึงจำเป็นที่จะต้องผลิตและอัปเดตบ่อย เพื่อให้ตอบสนองต่อแนวโน้มและเหตุการณ์ในปัจจุบัน

 

เรียกได้ว่าทั้ง Evergreen Content และ Topical Content นั้น ต่างก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละธุรกิจมีวัตถุประสงค์ในการสื่อสารเป็นแบบไหน และเมื่อได้รู้แล้วว่า Evergreen Content คืออะไร สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร หากธุรกิจไหนต้องการที่จะทำคอนเทนต์เพื่อปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ผ่านการทำ SEO ต้องขอบอกเลยว่าบริการรับทำ SEO ติดหน้าแรกจาก ADME มาพร้อมบริการทำ Page Title ที่เหมาะสม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหัวข้อ เนื้อหาที่กำลังพูดถึงบนหน้าเว็บไซต์ ทำให้ Page Title มีความสำคัญไม่แพ้กับกลยุทธ์ในการเขียนบทความแบบ Evergreen Content ที่ช่วยดันอันดับของเว็บไซต์ให้อยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหา