ไขข้อสงสัย บทความ SEO คืออะไร ดีกว่าบทความทั่วไปอย่างไร
Table of Contents
บทความ SEO หรือการทำ SEO Content เป็นวิธีทำการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากคนทำธุรกิจที่ใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางหลักในการดึงดูดลูกค้า เพราะการรับทำ SEO ติดหน้าแรกบน Google มาพร้อมหลักการเขียนบทความ SEO ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจในสิ่งที่เราเขียนได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้ ADME ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าบทความ SEO คืออะไร ทำไมถึงช่วยเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ได้ดีกว่าบทความทั่วไป ตามมาหาคำตอบเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
บทความ SEO คืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยมมากกว่าบทความทั่วไป
SEO Content หรือบทความ SEO (Search Engine Optimization) เป็นการรับจ้างทำ SEO ที่เนื้อหาด้านในสามารถตอบสนองความต้องการของผู้อ่าน ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และเพื่อเพิ่มโอกาสในการติดหน้าแรก Google มากขึ้น จึงต้องปรับแต่งเว็บไซต์หรือเนื้อหาให้สอดคล้องกับ Google Algorithm ของ Search Engine ด้วย เช่น
- การทำ Keyword Research เพื่อให้ได้ Keyword ที่มีการถูกค้นหาเยอะรวมทั้งมีความสอดคล้องกับเนื้อหาที่จะเขียนมาทำเป็นบทความ SEO
- การจัดระเบียบโครงสร้างบทความด้วย Header และ Sub Header (H1-H3)
- เพิ่ม Internal Link (ลิงก์ภายใน) และ External Link (ลิงก์ภายนอก) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและการจัดอันดับหน้าค้นหาที่ดีในหน้าแรก Google
คนทำ SEO ควรรู้ บทความ SEO ต่างจากบทความทั่วไปอย่างไร
สำหรับใครสงสัยว่าบทความ SEO ต่างจากบทความทั่วไปอย่างไร ทำไมคนทำธุรกิจเว็บไซต์ถึงนิยมเขียนบทความ SEO มากกว่า เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายขึ้น ตาม ADME media มาหาคำตอบกันกันว่าความแตกต่างระหว่างบทความ SEO กับบทความทั่วไป มีเรื่องไหนบ้าง
1. คำค้นหาหรือ Keyword
บทความ SEO คือการเขียนบทความที่สอดแทรก Keyword ในการทำ SEO ไว้ในบทความ เพราะผู้เขียนบทความ SEO ตั้งใจใช้ Keyword เป็นป้ายบอกทางให้ผู้ค้นหา Keyword นั้นผ่าน Search Engine คลิกไปยังเว็บไซต์เป้าหมายได้อย่างถูกต้อง ซึ่งต่างจากบทความทั่วไปที่สามารถเขียนผลงานได้ตามความต้องการของตัวเองโดยไม่มีเรื่อง Keyword
เข้ามาเกี่ยวข้อง
2. ทำบทความ SEO เพื่อการตลาดมากกว่า
บทความ SEO มุ่งเน้นการติดอันดับที่ดีในหน้าแรก Google เพื่อประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้เวลาเขียนบทความ SEO มีการนำ Keyword มาปรับแต่งโครงสร้างบทความ เพื่อให้ Search เจอเว็บไซต์ของเราง่ายขึ้น ซึ่งต่างจากบทความทั่วไปที่ไม่ได้หวังผลในการผลักดันอันดับเว็บไซต์บน Search Engine
3. การแทรกลิงก์ภายในบทความ
ลิงก์ (Link) เป็นตัวเชื่อมโยงบทความ SEO ไปยังบทความอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายกันบนเว็บไซต์ ซึ่งประโยคหรือข้อความที่ใช้สร้างลิงก์มักเป็น Keyword ในการทำ SEO เพื่อช่วยให้การเขียนบทความ SEO ได้ผลลัพธ์ที่ดี ขณะที่บทความทั่วไปไม่จำเป็นต้องแทรกลิงก์เชื่อมโยงในลักษณะนี้ก็ได้
4. จำนวนคำในบทความ
การเขียนบทความทั่วไปไม่ได้กำหนดความยาวของเนื้อหาไว้ ผู้เขียนสามารถกำหนดโครงสร้างและความยาวเนื้อหาได้ตามต้องการ ซึ่งต่างจากบทความ SEO ที่ควรมีความยาวประมาณ 800 คำหรือมากกว่านั้น อีกทั้งตัวเนื้อหาควรมีประโยชน์ต่อผู้อ่านเพื่อให้เกิดการแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ ซึ่งเรื่องส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO ด้วย
ประเภทของบทความ SEO กลยุทธ์ที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มทำ SEO
แม้การทำบทความ SEO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้นว่าธุรกิจของคุณมีสินค้าหรือบริการอะไรที่น่าสนใจบ้าง แต่ถ้าอยากผลักดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับค้นหาบนหน้า Search Engine หรือ Google อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องทำการปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ Search Engine ถูกใจ ตาม ADME มาหาคำตอบว่าควรทำบทความ SEO ประเภทไหนบ้าง ? ถึงตอบโจทย์ทั้งผู้อ่านและโดนใจการจัดอันดับของ Google
1. Onsite Content
เป็นการสร้างบทความ SEO ที่มีคุณภาพและน่าสนใจเพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์ นอกจากเนื้อหาด้านในต้องมีคุณภาพและน่าสนใจที่ช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นจริง ๆ ยังมีการใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือเป้าหมายของเว็บไซต์แทรกไว้ในส่วนต่าง ๆ ของบทความ SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการค้นหาบน Google อีกด้วย
2. Blog Content
เป็นบทความ SEO อีกประเภทที่เขียนโดยบุคคลทั่วไปหรือบุคคลที่มีความรู้เฉพาะด้านแล้วอยากมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับผู้อ่าน ทำให้จุดเด่นของ Blog Content อยู่ที่การสร้างเนื้อหาที่หลากหลายเพื่อดึงดูดผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่องการเดินทาง การทำอาหาร การลงทุน อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ ๆ การรีวิวหนังสือ หรือการรีวิวสินค้า เรียกว่ายิ่ง Blog Content นำเสนอเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้อ่านมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนคนเข้า Blog ได้มากขึ้นตามไปด้วย
3. Outreach Content
คือบทความ SEO ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงไปหากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการโปรโมตสินค้าหรือสร้างความเข้าใจในบริการหรือแบรนด์ นอกจากเนื้อหาต้องมีคุณภาพสูงและสร้างความเชื่อมั่นกับผู้อ่าน ยังต้องสามารถดึงดูดความสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้อ่านเป็นลูกค้า สำหรับ Outreach Content อาจถูกนำไปเผยแพร่บนบล็อก อีเมล หรือสื่อโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook หรือ X (Twitter) ก็ได้เช่นเดียวกัน
แชร์ Tips เขียนบทความ SEO ให้ถูกใจคนอ่าน โดนใจ Google
การเขียนบทความ SEO หรือ SEO Content เพื่อเพิ่มการเข้าชม (Traffic) ของเว็บไซต์หรือบล็อกไม่ใช่เรื่องง่ายต้องอาศัยหลายปัจจัยเข้ามาช่วยเขียนบทความ SEO หรือรับเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรก Google โดยมีแนวทางที่คนทำ SEO ควรรู้ดังนี้
เรียนรู้ Google Algorithm
Google Algorithm เป็นระบบหลังบ้านของ Google คอยทำหน้าที่คัดเลือกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ซึ่งมีคนค้นหามากที่สุดขึ้นมาแสดงบนหน้า Google แต่ Google Algorithm มีการอัปเดตอยู่บ่อย ๆ ทำให้คนทำ SEO ต้องหมั่นอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน
คำค้นหาหรือ Keyword
เพื่อทำให้บทความ SEO ถูกจัดอันดับที่ดีบน Google การเลือกคำค้นหาหรือ Keyword ในการเขียนบทความ SEO ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรเลือกใช้ Keyword ที่ตอบโจทย์และมีปริมาณการค้นหาที่สูง เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ถูกค้นพบและติดอันดับได้ง่ายขึ้น
การวางโครงสร้างบทความ SEO
สำหรับการวางโครงสร้างเนื้อหาก่อนเขียนบทความ SEO จะช่วยให้บทความ SEO น่าอ่าน มีความน่าเชื่อถือ และมีโอกาสติดหน้าแรกของ Google มากขึ้น โดยโครงสร้างภายในที่ควรมี ได้แก่ การตั้งชื่อเรื่อง หัวข้อหลักและหัวข้อย่อยในเนื้อหา การแทรกลิงก์ภายในและลิงก์ภายนอก ไปจนถึงการ Meta Description บทสรุปเนื้อหาบทความ SEO ล้วนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเขียนบทความ SEO ที่ดี
การปรับปรุงเว็บไซต์
เพื่อให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์รู้สึกสะดวกสบายและอยากกลับมาที่เว็บไซต์ของเราอีก การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค เช่น การเพิ่มความเร็วเวลาโหลดหน้าเว็บไซต์ ปรับปรุงโครงสร้าง URL ใหม่ หรือทำให้หน้าเว็บไซต์แสดงผลในอุปกรณ์ที่ต่างกันได้อย่างสวยงาม
ทำให้บทความ มีเนื้อหาน่าสนใจ
เวลาที่นำข้อมูลจาก Keyword Research มาเขียนบทความ SEO ควรใช้ภาษาที่ใครอ่านแล้วก็เข้าใจได้ง่าย รวมถึงสอดแทรกสาระน่ารู้และความบันเทิงเข้าไป จะช่วยให้ผู้อ่านได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินจากอ่านบทความ SEO ที่สำคัญยิ่งผู้อ่านอยู่ในหน้าเว็บไซต์นานเท่าไหร่ ยิ่งมีผลดีต่อการจัดอันดับเว็บไซต์
ควรเขียนบทความประเภท Long From
การเขียนบทความ SEO แบบ Long form ที่มีเนื้อหา 2,000 คำหรือมากกว่านั้น จะช่วยดึงดูดผู้อ่านใช้งานหน้าเว็บไซต์ของเรานานขึ้น แต่ทั้งนี้เนื้อหาภายในบทความต้องมีความน่าสนใจและสอดรับกับหัวข้อตั้งขึ้นมาด้วย เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากบทความเรื่องนั้น ๆ
อัปเดตบทความสม่ำเสมอ
การอัปเดตบทความ SEO เป็นประจำก็มีผลต่อการดันเว็บไซต์ให้อันดับต้น ๆ ของ Google เพราะการเขียนบทความ SEO ใหม่หรือนำบทความเก่ามารีไรท์เนื้อหาใหม่จะช่วยให้บทความมี Engagement อยู่ตลอดและมีความสดใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเราเป็นเว็บไซต์ที่มีการเติบโตอยู่เรื่อย ๆ และมีความน่าเชื่อถือ
ตั้งชื่อ URL ด้วยคีย์เวิร์ด
การตั้งชื่อ URL บทความด้วยคีย์เวิร์ด SEO สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ชื่อ URL ที่ใช้ควรเป็นประโยคสั้น ๆ เห็นแล้วรู้ว่ากำลังอ่านบทความเรื่องอะไร หรือกำลังเข้าดูเว็บไซต์ของใคร เป็นสินค้าหรือธุรกิจประเภทไหน ซึ่งการตั้งชื่อ URL ด้วยคีย์เวิร์ดช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ง่าย ทั้งยังช่วยให้ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูลได้สะดวกขึ้นด้วย
บทความ SEO ทำแล้วส่งผลดีต่อธุรกิจบนช่องทางออนไลน์อย่างไร
แม้ทราบกันดีว่าการทำบทความ SEO จะใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรามาเขียนบทความ เพื่อให้เวลาที่ผู้อ่านใช้ Keyword ดังกล่าวค้นหาข้อมูลบน Search Engine
จะได้เจอเว็บไซต์เราเป็นอันดับแรก ๆ แต่ความสำคัญของการเขียนบทความ SEO ไม่ได้มีผลดีแค่การดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับ Google เพราะการทำ SEO Content ยังมีผลดีต่อธุรกิจที่น่าสนใจดังนี้
- การเขียนบทความ SEO เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ธุรกิจของเราให้เป็นที่รู้จัก
- การทำบทความ SEO ที่ดีช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการมีลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการมากขึ้น
- การทำบทความ SEO ช่วยเพิ่มยอดการเข้าชม (Traffic) ที่มาจากการค้นหาด้วย Keyword โดยตรง ทำให้มียอดการเข้าชมเว็บไซต์ต่อเนื่องและมีความยั่งยืน
- การทำบทความ SEO ถือเป็นการตลาดออนไลน์ที่ใช้งบประมาณน้อย แต่ช่วยให้สินค้าและบริการของเราถูกค้นหาได้ง่าย
- บทความ SEO ที่ดีจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้เว็บไซต์ของเรามีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน
- การทำบทความ SEO เป็นการโปรโมตเว็บไซต์และแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกโดยไม่ต้องซื้อพื้นที่โฆษณาออนไลน์
ทำไมถึงควรให้ ADME บริษัทรับเขียนบทความ SEO ดูแลคุณ
เมื่อการเขียนบทความ SEO จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ทั้งเรื่องเขียนบทความ SEO รวมถึงเทคนิคที่ช่วยปรับเว็บไซต์ให้สอดรับกับเงื่อนไขของ Google Algorithm ของ Search Engine ด้วย ดังนั้นการจ้างบริษัทที่รับจ้างทำ SEO เข้ามาช่วยจะตอบโจทย์มากกว่าการทำ SEO ด้วยตนเอง และ ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ที่มีบริการรับทำ SEO อย่างครบวงจรจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยตรง พร้อมยินดีให้คำปรึกษาเรื่องบทความ SEO ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้คุณได้บทความ SEO ที่ดีและมีคุณภาพไปช่วยดันเว็บไซต์ และเพื่อให้ภาพชัดเจนมากขึ้นมาดูกันว่าการทำบทความ SEO กับ ADME มีข้อดีอะไรบ้าง
- ทีมงานมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำ SEO จึงให้คำแนะนำและเสนอไอเดียที่เหมาะกับการทำบทความ SEO ได้อย่างเป็นมืออาชีพ
- สามารถนำงบและทรัพยากรที่ใช้สร้างทีม SEO ของตัวเองไปพัฒนาหรือขยายกิจการได้ในทันที
- ความเชี่ยวชาญด้านการเขียนบทความ SEO ของทีมงานทำให้ได้เนื้อหาที่มีคุณภาพและสร้างความน่าเชื่อถือกับผู้อ่าน
- มีทีมงานคอยปรับปรุงบทความ SEO ให้เหมาะสมกับการค้นหาของผู้อ่านอยู่เสมอ
- มีความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องมือที่ใช้ค้นหา Keyword การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ทำให้เขียนบทความ SEO ได้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์
- สามารถช่วยเหลือในการทำ SEO ได้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มของการตลาดออนไลน์
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าการเขียนบทความ SEO หรือการทำบทความ SEO คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์คนทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เพราะการทำบทความ SEO ที่ใช้คีย์เวิร์ดซึ่งมี Search Volume สูงจะช่วยให้เขียนบทความ SEO ได้ตรงใจ Google และผู้อ่านมากกว่า อีกทั้งการปรับปรุงเนื้อหาใน SEO Content อย่างสม่ำเสมอยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับเว็บไซต์ติดอันดับบน Google และมียอดเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ดังนั้นธุรกิจไหนที่อยากยกระดับเว็บไซต์และบทความของคุณในระยะยาวอย่างยั่งยืนการทำ SEO ถือเป็นวิธีเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ดีและได้ผลจริง