ทํา SEO YouTube เพิ่มการมองเห็นให้คลิปวิดีโอ
Table of Contents
ทํา SEO YouTube กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เด็ดเพื่อความปังมากกว่าที่เคยของการทำคลิปลง YouTube ด้วยวิธีทํา SEO YouTube ที่ตอบโจทย์ และการทํา SEO YouTube อย่างถูกวิธีจะทำให้คลิปวิดีโอของเราถูกค้นหาเจอ และเพิ่มยอดวิว Youtubeได้อย่างง่ายดาย !!
..เชื่อว่า YouTuber ทุกคน ก็อยากให้ค้นหาวิดีโอของตัวเองเจอง่าย ๆ บน YouTube ADME จึงขอนำเสนอ “วิธีการทำให้คนดูค้นหาวิดีโอของเราได้ดียิ่งขึ้น” ผ่านการทำสิ่งที่เรียกว่า เทคนิคทํา SEO YouTube ซึ่งการทํา SEO YouTube นั้นมีหลายขั้นตอนมาก และมีรายละเอียดที่เยอะมาก และแต่ละอย่างก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่จะทำให้คลิปใน Youtube ของทุกคนปังยิ่งกว่าเก่า โดยจะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันต่อได้เลย
เทคนิคการทํา SEO YouTube ให้คนหาคลิปเจอได้ง่าย ๆ
เหล่า Youtuber ห้ามพลาด!! ทํา SEO YouTube ให้คลิปหาเจอได้ง่าย ๆ ด้วย 5 เคล็ดลับการทำการตลาดออนไลน์ที่ ADME ได้รวบรวมมาให้แล้ววันนี้!
1. YouTube Keyword Research
โดยปกติแล้ว YouTuber มักจะรู้อยู่แล้วว่าต้องการนำเสนอประเด็นไหน หรือทำคลิปเกี่ยวกับอะไร แต่เราขอแนะนำอีกหนึ่งวิธีทำการตลาดออนไลน์ที่สามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่ม Filming หรือนำ Video มาลง ควรจะทำ Keyword Research ก่อน เพื่อจะได้ทํา SEO YouTube และสร้างคอนเทนต์ออกมาให้ตรงกับความต้องการของคนดูได้มากขึ้นจากการใส่คีย์เวิร์ดยูทูป
โดยการ Keyword Research เพื่อการใส่คีย์เวิร์ดยูทูปนั้น เราก็สามารถใช้ Tools มาช่วยได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google Keyword Planner, Google Suggestion, Ubersuggest, YouTube Suggestion หรือจะใช้ Keyword Tool (keywordtool.io/youtube) ก็ได้เช่นกัน
เผื่อคนสับสนในเรื่องของ Google Suggestion กับ YouTube Suggestion ซึ่งทั้งสองคือคำที่โผล่ขึ้นมาหลังจากที่เราพิมพ์ค้นหาใน Google หรือ YouTube นั่นเอง เพราะทาง Google และ YouTube จะดึงคำที่มีคนค้นหาเยอะและเกี่ยวข้องกับคำที่เราใส่ขึ้นมาโชว์ให้ ทีนี้พอเราได้ Keyword สำหรับวิดีโอนั้น ๆ มาก็ไปที่ Step ต่อไปได้เลย
2. Publish a High-Retention Video and Thumbnail
ในยุคนี้คงไม่มีใครอยากนั่งดูวิดีโอคุณภาพแย่ ภาพแตก ๆ อีกต่อไป เพราะฉะนั้นการอัปโหลดภาพวิดีโอที่คมชัดน่าดึงดูดนั้นจำเป็นมาก ๆ โดยวิธีทํา SEO YouTube จะต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เพื่อเผยแพร่วิดีโอที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนดูและถูกหลักการทํา SEO YouTube
ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบหลักของการทำวิดีโอ
เรื่อง Video จริง ๆ แล้วจะมี 2 องค์ประกอบหลัก ซึ่งประกอบด้วย
- ภาพ
- เสียง
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในภาพและเสียงของวิดีโอ
องค์ประกอบหลักของวิดีโอ | สิ่งที่ต้องคำนึงถึง |
ภาพ |
|
เสียง |
|
ถ้าเช็คลิสต์พวกนี้ผ่าน ถือว่าตัววิดีโอเราพร้อม เพื่อทํา SEO YouTube ให้มีคุณภาพเราจะต้องไปดูที่ Thumbnail กันต่อ
อย่ามองข้ามการทำ Thumbnail เพื่อดึงดูดคน
Thumbnail ก็คือรูปหน้าปกของ Video นั้น ๆ นั่นเอง ถือเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูวิดีโอของเรา และยังช่วยเพิ่ม Brand Awareness อีกทางหนึ่งด้วย
Tips: ตัว YouTube Thumbnail นี้เราสามารถอัปโหลดแบบเป็น GIF File ได้ด้วยนะ แต่ต้องไม่เกิน 2 MB
ความแตกต่างระหว่าง Thumbnail ที่เป็น GIF กับ ภาพนิ่ง ก็คือ เวลาเรานำเมาส์ไปชี้ที่ Thumbnail ที่เป็น GIF มันจะเป็นภาพกระดุ๊กกระดิ๊กนั่นเอง (สามารถวัดผลว่า Thumbnail ของเราดีหรือไม่ดี ได้จาก Metrics ที่ชื่อว่า Impressions click-through-rate ซึ่งเรามีอธิบายความหมาย และวิธีใช้เพิ่มเติมอยู่ด้านล่าง)
3. Monitor Important Elements
ทํา SEO YouTube วิธีเพิ่มการมองเห็นวิดีโอที่ต้องอย่ามองข้ามการตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ ที่สำคัญใน YouTube ซึ่งประกอบไปด้วย
คอมเมนต์
- เมื่อทํา SEO YouTube ควร Reply คอมเมนต์ทุกครั้ง เพราะถือเป็นการเพิ่ม Engagement ให้กับคลิป
- การทํา SEO YouTube ยิ่งมี Engagement มาก ถือว่ายิ่งดี
ยอดผู้ติดตามหลังรับชม
ถ้าสมมติมีคนดูวิดีโอเราจบ แล้วกดติดตามทันทีจากวิดีโอนั้น ๆ อันนี้ถือเป็นสัญญาณให้เรารู้ว่า มีคนชื่นชอบวิดีโอคลิปไหนของเราบ้าง และเราก็ควรพัฒนาคอนเทนต์ต่อจากคลิปนั้น เพื่อดึงดูดคนให้มาติดตามเพิ่มไปอีก
ยอดแชร์ของวิดีโอ
เมื่อทํา SEO YouTube ยิ่งแชร์มาก ยิ่งถือว่าดี เพราะ YouTube ค่อนข้างให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่คนแชร์เยอะ ทำให้สำหรับการจัดอันดับ Ranking ทาง YouTube เองก็มีการวัดให้ยอดแชร์ของวิดีโอมีความสำคัญด้วยเช่นกัน
ยอด Like
ไลก์เยอะ คนเห็นเยอะขึ้น แน่นอนว่า YouTube ก็ต้องการเอาใจคนที่มาดูด้วยการหาคอนเทนต์ที่ใกล้เคียงกันมาโชว์ให้เห็น ให้ดูต่อ เพราะฉะนั้นยอดไลก์ก็เป็นสิ่งที่ยิ่งมียิ่งดี ยิ่งมีไลก์ ก็อาจจะเป็นโอกาสให้คนพบเห็นได้มีโอกาสดูวิดีโอของเรามากขึ้นนั่นเอง
Impressions click-through-rate
เจ้า Metrics ที่ชื่อว่า Impressions click-through-rate นี้จะแสดงผลเป็น % โดยมันจะบอกว่า ถ้ามีคนเห็น Thumbnail หรือชื่อของวิดีโอของคลิปนี้ลอย ๆ อยู่บน YouTube ไม่ว่าจะเป็นตรงหน้า Home, ตรงแถบ Video Suggestions, หรือบนพื้นที่ส่วนอื่นๆ แล้วมีคนคลิกเข้ามาเพื่อดูวีดิโอของเรากี่คน เช่น Impressions click-through-rate อยู่ที่ 20% แปลว่า ถ้ามีคนเห็น Thumbnail เรา 100 ครั้ง มีคนคลิกเข้ามาดูคลิปเราทั้งหมด 20 ครั้ง เพราะฉะนั้นยิ่งมาก ถือว่ายิ่งดีนั่นเอง
Audience Retention
YouTube ให้ความสำคัญมากกับข้อมูลนี้ เพราะพวกเค้าอยากให้ผู้ชม “อยู่ดูวิดีโอต่อไปเรื่อยๆ” ซึ่ง Audience Retention จะแสดงผลเป็น % โดยมักจะแสดงเป็นกราฟข้อมูลความยาวของตัววิดีโอและตรงช่วงไหนของวิดีโอที่ผู้คนเริ่มไม่สนใจตัววีดิโอแล้ว ซึ่งตรงส่วนนี้ทาง YouTube Analytics จะทำการไฮไลต์เป็นสีไว้ให้เราดูได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเปอร์เซ็นต์ของ Audience Retention ยิ่งสูงมากเท่าไหร่แปลว่ายิ่งส่งผลดีต่อเรามากเท่านั้น
Watch Time
Metrics นี้ซึ่งเราจะขอนิยามมันว่ายอดดูนาทีสะสมจะเป็นตัวสำคัญที่ช่วยบอก YouTube ว่าตัววิดีโอนั้น ๆ มีการ Perform ที่ดีและจะช่วยให้วิดีโอนั้น ๆ ปรากฏอยู่บน YouTube บ่อยยิ่งขึ้น ซึ่งวิดีโอที่มีความยาวมากกว่าจะมีข้อได้เปรียบในการเก็บเจ้ายอดนาทีสะสมง่ายกว่า (อย่าลืมระวังเรื่อง Audience Retention ตอนที่วางแผนความยาวของตัววิดีโอด้วยนะ)
4. YouTube Video Optimisation
วิธีทํา SEO YouTube โดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิดีโอด้วยการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้
คอนเทนต์ในวีดิโอต้องสัมพันธ์กับ Title และ Description ที่ใส่
เพิ่มความสนใจที่ 15 วินาทีแรกของวิดีโอ
15 วินาทีชี้ชะตา เจ้า 15 วินาทีแรกของวิดีโอนี่ถือเป็นตัวชี้วัดว่าคนจะดูคลิปคนต่อ หรือปิดทิ้งไป เพราะฉะนั้นเมื่อทํา SEO YouTube เราควรทำ 15 วินาทีแรกให้มีความสนใจที่สุด โดย ADME มี Tips เล็ก ๆ มานำเสนอ
15 วินาทีแรกนี้ เราสามารถแบ่งออกเป็น 5 วินาทีแรก และ 10 วินาทีต่อไปได้ โดย 5 วินาทีแรก เราต้องเปิดด้วยคำถาม วลี ประโยคที่น่าสนใจ หรือเป็น Highlight ของคลิปนี้ เพื่อชวนให้คนติดตามต่อ และ 10 วินาทีต่อไป ควรใช้เพื่ออธิบายคลิปนี้เกี่ยวกับอะไร ซึ่งแล้วแต่ความสร้างสรรค์ส่วนบุคคลได้เลยว่าอยากจะทำด้วยการพูดหรือใช้ภาพสื่อ
ใส่ Target Keywords ลงไปใน Video Title, Description, และ Tag
พอเรารู้ Target Keywords แล้ว เราต้องทำการใส่คีย์เวิร์ดยูทูปโดยนำ Target Keyword นั้นใส่ไว้ใน Video Title หรือชื่อของตัววิดีโอนั่นเอง และแน่นอนว่าต้องใส่ใน Description หรือคำอธิบายวิดีโอ และที่ส่วนของ Tag ด้วยเช่นกัน
สร้าง Playlist
ในการทํา SEO YouTubeเราต้องมีการกำหนด Playlist ต่างๆ ของ Channel ที่แน่ชัด และเลือกว่าวิดีโอที่เรากำลังจะอัปโหลดจะอยู่ใน Playlist ไหน หรือไม่อยู่ใน Playlist ซึ่งเมื่อเวลาคนเสิร์ชหาอะไรบน YouTube นอกจากคลิปวิดีโอที่จะโผล่ขึ้นมาเป็น Video Suggestions ก็จะมี Playlist อยู่บ้างประปรายเช่นกัน เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อ Playlist ให้สอดคล้องกับ Keyword ของวีดิโอใน Playlist ก็เป็นอีกสิ่งที่ ADME อยากแนะนำให้ลองพิจารณาเพื่อให้สามารถทํา SEO YouTube ให้ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ข้อดีของ Playlist ก็จะทำให้คนดูคลิปของเราต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปค้นหาวิดีโอพาร์ทต่อไปด้วยตัวเอง อีกทั้งคนดูก็จะไม่ออกไป Channel อื่น ๆ อีกด้วย (ตัวช่วย Watch Time และ Audience Retention เป็นอย่างดี)
ต้องมี Video Elements ให้ครบ
เพื่อให้สามารถทํา SEO YouTube ให้ประสบความสำเร็จอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีก็คือ Elements ต่างๆ ซึ่ง Video Elements นั้นประกอบไปด้วย
ใส่ Subtitles
เดี๋ยวนี้บางคนดู YouTube ก็ไม่ค่อยเปิดเสียง เพราะฉะนั้น Subtitle เลยถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและเป็นวิธีทํา SEO YouTube ที่ทำให้คนดูรู้ว่าเรากำลังทำคอนเทนต์เรื่องเกี่ยวกับอะไร และนอกจากมีประโยชน์กับคนที่ดูแล้ว ยังส่งผลดีต่อ YouTube Algorithm อีกด้วย เพราะบางครั้งแทนที่ YouTube จะแสดง Description เมื่อเราเสิร์ชหาหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง กลับเป็น Subtitles ที่ปรากฏขึ้นมาแทน Subtitles เลยถือเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้คนหาคลิปเราเจอจากการทํา SEO YouTube มากขึ้นด้วยเช่นกัน
เตรียม End Scene
เวลาตัด Video เสร็จแล้ว อย่าลืมเพิ่มขยายความยาววิดีโอในช่วงจบออกไปอย่างน้อย 5 วินาที เพื่อให้เราได้ใส่ End Scene ให้เรียบร้อย โดย End Scene ที่ว่านี้ทาง ADME ขอแนะนำว่ามันควรจะประกอบไปด้วย
– ปุ่ม Subscribe
– Playlist หรือ Video ที่เกี่ยวข้อง หรือคลิปที่ต้องการให้คนที่ดูคลิปนี้จบแล้ว ดูต่อ
และทาง YouTube เค้าก็มีหลาย Layout ให้เลือกสรรจัดวาง Elements ต่างๆ โดยเราสามารถเข้าไปปรับขนาดได้ตามสะดวก
อย่าลืม Card
เพื่อทํา SEO YouTube ที่ดี เราจะต้องอย่าลืมที่จะใส่ Card ซึ่งเจ้า Card นี้เป็นไอคอนตัว i แถบขาวหม่นตรงด้านบนขวาของคลิปวิดีโอ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าอยากให้เจ้าตัวนี้แสดงอะไร
Card ที่สามารถแสดงได้
– Video
– Playlist
– Channel
– Link (ต้องตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนว่าลิงก์ที่เราต้องการไม่ได้ขัดกับนโยบายของ AdWords, YouTube, และ YouTube Community Guidelines ไม่เช่นนั้น Channel ของเรามีสิทธิปลิวได้)
ซึ่งตัวไอคอน i นี้จะปรากฏอยู่ตลอดถ้ามีการเคลื่อนเมาส์บนคลิปวิดีโอที่เราใส่ และจะปรากฏเป็นแถบที่มีข้อความก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่เรากำหนดเอาไว้เป็นเวลาประมาณ 7 วินาทีก่อนที่จะกลับเป็นตัว i อีกครั้ง
ทาง ADME แนะนำว่าในการทํา SEO YouTubeควรจะใส่ Card ไว้ตรงที่ผู้คนชอบกดข้าม (Dips) เยอะที่สุดใน Audience Retention
5. Channel
เพื่อให้สามารถทํา SEO YouTube ให้วิดีโอค้นเจอง่าย เราจะต้องทำการใส่คีย์เวิร์ดยูทูปโดยการใส่ Target Keyword ที่เป็นหัวใจของ Channel ของเราลงไปยัง Description และ Tag
เพราะข้อมูล Channel จะเป็นอีกตัวช่วยที่บอก YouTube ว่า Channel ของเราเกี่ยวกับอะไร ซึ่งถ้าเราใส่ Target Keyword ที่บ่งบอกตัวตนของ Channel ของเราได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับ Target Keyword ที่เราเคยใส่ในวีดิโอของเราจะยิ่งดี เพราะ YouTube เค้าก็จะดูปัจจัยเรื่องความเกี่ยวข้องของวิดีโอด้วย แต่ ADME ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าอย่ายัด Keyword เยอะจนเกินไป เพราะการใส่คีย์เวิร์ดยูทูปมากเกินไปจะทำให้ YouTube ไม่รู้ว่าสรุปแล้วเราเป็น Channel เกี่ยวกับอะไรกันแน่
สำหรับคนที่อยากปรับ Description จะสามารถทำได้เมื่อไปที่ Customisation และเลือก Basic Info
และคนที่อยากปรับ Channel Tag จะทำได้ที่ Setting และเลือก Channel
เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถทํา SEO YouTube ให้วิดีโอค้นเจอง่ายด้วยเคล็ดลับการใส่คีย์เวิร์ดยูทูป และหลักการทํา SEO YouTube ที่ ADME ได้แนะนำไป และหากใครยังมีข้อสงสัย อยากติดตามบทความการตลาดออนไลน์อื่น ๆ หรือ สนใจในบริการรับทำการตลาดออนไลน์ ของ ADME สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามและเรียนรู้เรื่องของการทํา SEO YouTube และวิธีทํา SEO YouTube ได้เลย !